อ้างอิงข้อมูลจาก Cannabit Addict รวบรวมไว้ในปี 2562 ระบุว่า
จาก 193 ประเทศในโลก มี 69 ประเทศที่มีการ ปลดล็อกกัญชา เพื่อใช้ประโยชน์ทางการแพทย์และสำหรับสันทนาการ มีเพียง 5 ประเทศเท่านั้นที่เปิดให้สามารถครอบครองและใช้ได้อย่างเสรีถูกกฎหมาย
โดย ประเทศไทย จัดอยู่หนึ่งกลุ่มที่มีกฎหมายให้ใช้ กัญชาแบบเสรี หรือถูกกฎหมายทั้งทางกัญชาสันทนาการและกัญชาการแพทย์ ทั้งนี้ หลังจากวันที่ 9 มิถุนายน 2565 เป็นต้นไป ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ระบุชื่อยาเสพติดให้โทษ ในประเภท 5 พ.ศ.2565 ส่งผลให้ส่วนต่างๆ ของพืชกัญชาได้แก่ ช่อดอก เปลือก ลำต้น เส้นใย กิ่งก้าน ราก ใบ ไม่ว่าสดหรือแห้ง กากหรือเศษที่เหลือจากการสกัดกัญชาและยางกัญชา ไม่มีสถานะเป็นยาเสพติดอีกต่อไป เว้นแต่สารสกัดจากกัญชา-กัญชง ที่มีปริมาณสารเตตราไฮโดรแคนนาบินอล หรือ THC เกิน 0.2% เท่านั้น ที่ยังถือเป็นยาเสพติด
ทำให้การกัญชาในประเทศไทย สามารถ ปลูก สูบ ครอบครอง สำหรับใช้ส่วนตัวได้โดยไม่มีความผิด ทั้งนี้ อย.กำหนดชัดเจนให้ปลูกในครัวเรือนเพื่อรักษาสุขภาพได้ 10 หรือ 20 ต้น
โดยหลังจากปลดล็อกสามารถขายส่วนต่างๆ ของพืช โดยไม่ต้องขออนุญาตตามกฎหมายยาเสพติด
ในกรณีที่ต้องได้รับการอนุญาตก่อนทำการขาย ได้แก่
ทั้งนี้ หลายฝ่ายจากเครือข่ายนักวิชาการและภาคประชาชนต้านภัยยาเสพติด และ ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์ยังคงเป็นห่วงว่า การเปิด เสรีกัญชา อาจทำให้กับผู้มีอายุต่ำกว่าเกณฑ์ เริ่มต้นทดลองสูบก่อนถึงวัยอันควรหรืออันตรายต่อสตรีมีครรภ์
อีกทั้งจากผลของการเปิด เสรีกัญชา ในบางประเทศต้องมีการเตรียมความพร้อมด้านจิตแพทย์ไว้รองรับ เนื่องจากพบว่า มีผู้ใช้เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ต้องเข้ารับการบำบัด จำนวนมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ขอขอบคุณที่มา springnews / และ twitter manopsi