อนุทิน ไม่ประกาศถอดแมสก์ ยืนคำแนะนำ"สวมหน้ากากอนามัย" แม้สู่โรคประจำถิ่น

8 มิถุนายน 2565 ตามที่ กระทรวงสาธารณสุข แถลงข่าวการเตรียมความพร้อมเข้าสู่โรคประจำถิ่น พร้อมทั้งส่งสาส์นถึงบุคลากรสาธารณสุขทุกคนเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่ยังมีคำถามกรณีการสวมหน้ากากอนามัย ว่า เมื่อกำลังจะเข้าสู่โรคประจำถิ่นจะมีการปรับคำแนะนำการสวมหน้ากากอนามัยอย่างไร หรือสามารถถอดหน้ากากอนามัยได้แล้ว

ความคืบหน้าล่าสุด นาย อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงความชัดเจนเกี่ยวกับการสวมหน้ากากอนามัยกรณีโควิด19 กำลังเข้าสู่โรคประจำถิ่น ว่า  อยากเรียนว่ากระทรวงสาธารณสุข มีความพยายามในการคืนความเป็นปกติสุขให้ประชาชนมากที่สุด มีการพูดถึงการถอดหน้ากากอนามัย อันนี้ก็เป็นเป้าหมายของ สธ. แต่เราต้องใช้ความเข้าใจของแต่ละคนด้วย หากเราประเมินความเสี่ยงได้ เราก็สามารถเลือกสวมหน้ากาก แต่คงไม่มีประกาศให้ถอดหน้ากากได้เช่นนั้น แต่ให้ประเมินสถานการณ์เองด้วยความเข้าใจและประสบการณ์ที่ผ่านมา 2 ปี จะใส่ก็ใส่ จะถอดก็ถอด 

นายอนุทิน กล่าวว่า ขณะนี้ไม่ต้องมีคำสั่ง หรือประกาศให้ถอดหน้ากากอนามัย เพราะตอนที่สวมหน้ากากก็ไม่มีคำสั่ง แต่เป็นแนวปฏิบัติเพื่อให้ปลอดภัยและลดความเสี่ยงจากโควิด ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี รวมถึงแพทย์ก็ยังมีคำแนะนำให้สวมหน้ากาก ประเมินสถานการณ์เสี่ยงนั้นๆ เช่น เราอยู่กันหลายคน ที่ไม่สามารถทราบได้ว่าแต่ละคนมีความเสี่ยงอย่างไร ก็ยังควรสวมหน้ากากอยู่ แต่หากไปงานสังสรรค์กันเอง ตรวจ ATK ไม่พบเชื้อ ไม่มีความเสี่ยงอะไรมา เช่น ผับบาร์ กิจกรรมรวมกลุ่มคน ประเมินความเสี่ยงแล้วก็สามารถถอดหน้ากากได้

“ แต่หากไม่ลำบากจนเกินไป การสวมหน้ากากตลอดเวลา สธ.ก็ยังแนะนำอยู่ เพื่อสร้างความมั่นใจว่าความเสี่ยงน้อยที่สุด ”นายอนุทินกล่าว

เมื่อถามถึงการ ถอดหน้ากากอนามัย ในผู้ประกาศข่าว นายอนุทิน กล่าวว่า การสวมหน้ากากเป็นข้อแนะนำของผู้จัดรายการ ที่อยากสร้างตัวอย่างที่ดี เพื่อเสริมความปลอดภัย และเลี่ยงรถทัวร์ที่จะมาจี้ถาม แต่เท่าที่ตนจำได้ไม่เคยมีคำสั่งว่าผู้จัดรายการต้องสวมหน้ากาก เพราะเราเน้นเรื่องระยะห่าง การรวมกลุ่มคนจำนวนมาก อย่างการจัดรายการ 1-2 ท่าน มีระยะห่างเกิน 2 เมตร ช่างภาพอยู่ไกลเกิน 2 เมตร ไม่มีการใช้เสียงดัง การตะโกน ก็ไม่ต้องสวมหน้ากากได้  

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ปัจจุบัน เราต้องประเมินความเสี่ยง เช่น ทุกคนในห้องส่งรับวัคซีนโควิด อย่างน้อย 3 เข็ม ตรวจ ATK เสมอ ก็ถอดหน้ากากจัดรายการได้ 

เมื่อถามย้ำว่าผู้ประกาศสามารถถอดหน้ากากจัดรายการได้ โดยไม่มีการลงโทษ นายอนุทินกล่าวว่า ไม่มีการลงโทษคนไม่สวมหน้ากากอยู่แล้ว แต่ทุกคนต้องรับผิดชอบสำนึกต่อสังคม ซึ่งช่วงที่ระบาดมากๆ หากเราไม่สวมก็จะดูแปลก อย่างไรก็ตาม ขึ้นอยู่กับการประเมินของแต่ละคน ซึ่งสธ.ได้ออกคำแนะนำว่า ให้สวมหน้ากากตลอดเวลาเมื่อออกนอกเคหสถาน เพื่อความปลอดภัยแต่ละคน

ด้าน นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัด สธ. กล่าวว่า สธ.แนะนำให้สวมหน้ากากอนามัย ที่เป็นหัวใจในการป้องกันโรคหลายโรค รวมถึงฝุ่นละอองด้วย เราพยายามให้มีการพิจารณา โดยวันนี้ สธ.ได้ส่งข้อพิจารณาเกี่ยวกับหน้ากากอนามัยไปยัง ศปก.ศบค. ให้คงสวมหน้ากากอนามัย โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง สถานที่เสี่ยง และกิจกรรมเสี่ยง  

อย่างไรก็ตาม  ที่ประชุมศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุขกรณีโควิด -19 หรืออีโอซี มีการพิจารณาสถานการณ์ดีขึ้นเป็นไปตามแผน

“ โรคนี้น่าจะเข้าสู่ระยะท้าย ๆ แล้ว ทุกจังหวัดเข้าสู่ระยะ Declining ไม่มีการระบาดใหญ่ เปิดเทอมก็ไม่พบปัญหา เปิดสถานบันเทิงก็ยังไม่พบปัญหา แต่เฝ้าระวังต่อว่าจะมีปัญหาในอนาคตหรือไม่ แต่มีการประเมิน คาดการณ์โดยผู้เชี่ยวชาญระบุว่าเราผ่านระยะการระบาดใหญ่มาแล้ว สามารถเข้าสู่การดูแล เฝ้าระวังตามสมควร ส่วนจะประกาศลดระดับการเตือนภัยโควิดหรือไม่นั้น รอดูสถานการณ์หลังเปิดผับบาร์ก่อน คาดว่ากลางเดือนมิ.ย.นี้ ”