วันนี้ (1 มิ.ย.) ที่รัฐสภา นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. เตรียมเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เพื่อหารือถึงการทำงานหรือไม่ว่า กทม. คือ ท้องถิ่น ต้องทำงานร่วมมือกับส่วนกลาง โดยอันดับแรกคือ กระทรวงมหาดไทย ซึ่งโดยอำนาจตามกฎหมาย รมว.มหาดไทย ยังสามารถปลดผู้ว่าฯ กทม. ได้ด้วย เพราะมีความสำคัญรองลงมาจากนายกรัฐมนตรี
เมื่อถามว่า แต่ในยุคนี้ถ้า รมว.มหาดไทย จะปลดผู้ว่าฯ กทม. ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า มันไม่ได้ยาก ยิ่งตอนนี้มีกฎหมายถอดถอนสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่นอยู่ในสภา และร่างนี้ไม่ได้ใช้เฉพาะ กทม.เท่านั้น แต่ใช้กับทั้งประเทศ แต่ไม่ใช่ว่าประชาชนเข้าชื่อแล้วสามารถปลดได้เลย ต้องตั้งคณะกรรมการสอบ ซึ่งในกรณีของ กทม. ได้มีการระบุทางกฎหมายว่า ต้องยื่นต่อ รมว.มหาดไทย และ รมว.มหาดไทย จะตั้งกรรมการกลางขึ้นมาตรวจสอบ รวมถึงสามารถปลดสมาชิกสภากรุงเทพมหานครได้
สิ่งที่เรากลัวที่สุดคือผู้ว่าฯ กทม.กับ รมว.มหาดไทย ที่มาจากคนละพรรคการเมืองกัน ที่จริงอยู่คนละพรรคไม่มีปัญหาแต่ถ้าต่างคนต่างเล่นการเมืองจะทำอย่างไร และเหตุนี้ทำให้การเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดเกิดได้ยาก เพราะเรากลัวปัญหาอย่างนี้ ดังนั้นการจะไปเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 76 จังหวัดจึงลำบาก เพราะจะเหมือนเป็นเบี้ยหัวแตกหลายพรรค ดังนั้นเราจึงทดลองกับ กทม.
เมื่อถามต่อว่า ขณะนี้มีการเรียกร้องให้มีการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดด้วย มีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน นายวิษณุกล่าวว่า แล้วแต่นโยบายการเมือง แต่ส่วนตัวเห็นว่าเป็นไปได้ยากในขณะนี้ เพราะมีเหตุหลายเหตุที่ไม่ควรพูดในขณะนี้
เมื่อถามอีกว่า คนอยากรู้ว่าผู้ว่าฯ กทม. กับนายกฯ จะสามารถทำงานร่วมกันได้หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ตนไม่คิดว่าจะเป็นปัญหา เพราะนายชัชชาติไม่ใช่คนที่มีบุคลิกแข็งกร้าวแต่อย่างใด ตนเคยทำงานร่วมกับนายชัชชาติจึงไม่คิดว่าจะมีปัญหาอะไร และต่อให้บุคลิกแข็งกร้าว งานคืองาน ส่วนจะไปทำอย่างอื่นอะไรกันก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ไม่คิดว่าเป็นปัญหา