เท็กซัสเริ่มฝังศพเด็กรายแรกจากเหตุกราดยิง

ศพของเด็กหญิง อาเมอรี โจ การ์ซา วัย 10 ปี ได้รับการประกอบพิธีฝังศพที่โบสถ์ในเมืองยูวัลดี เมืองเล็ก ๆ ที่มีประชากร 16,000 คนเมื่อวันอังคาร โดยเธอเป็นหนึ่งในเด็กนักเรียน 19 คนอายุ 9-11 ปีและครูอีก 2 คนที่ถูกมือปืนวัย 18 ปียิงเสียชีวิตภายในห้องเรียนชั้นเกรด 4 ของโรงเรียนประถมร็อบบ์เมื่อวันที่ 24 พ.ค. ประชาชนหลายร้อยคนในเมืองเดินทางไปร่วมพิธีมิสซาเพื่อไว้อาลัย แต่จำนวนเกินกว่าโบสถ์รองรับไหวทำให้หลายคนไม่สามารถร่วมพิธีได้ นอกจากนี้ศพของไมตี โรดริเกซ จะจัดขึ้นที่โบสถ์อีกแห่งในเมืองในคืนวันเดียวกัน

ตลอดสัปดาห์นี้จะมีพิธีศพของเด็กรวม 11 คนและครู 1 คน ส่วนศพที่เหลือจะประกอบพิธีในสัปดาหหน้า

วินเซนต์ ซาลาซาร์ ที่สูญเสียลูกสาว วัย 11 ปีในโศกนาฏกรรมครั้งนี้ด้วย แสดงความประหลาดใจที่ศพของลูกสาวมีกำหนดประกอบพิธีศพเป็นรายสุดท้ายในวันที่ 16 มิ.ย. โดยบอกว่า ปกติแล้วศพจะได้รับการทำพิธีภายใน 3 หรือ 4 วัน ไม่เคยเห็นว่าต้องรอนานขนาดนี้ แต่ก็เข้าใจว่ามีเด็กเสียชีวิตหลายคน

ในวันเดียวกัน เกรก แอบบอตต์ ผู้ว่าการรัฐเท็กซัส ประกาศสถานการณ์ภัยพิบัติในเมืองยูวัลดีเพื่อเร่งจัดสรรทรัพยากรของท้องถิ่นและของรัฐในการให้ความช่วยเหลือแก่ชุมชนที่เศร้าโศกจากเหตุสะเทือนขวัญครั้งนี้

นอกจากนี้นักเรียนจากโรงเรียนมัธยม มิเกล คอนเทรราส เลิร์นนิง เซนเตอร์ ในนครลอสแองเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย เดินออกนอกโรงเรียนเมื่อวันอังคารไปชุมนุมที่ด้านนอกศาลาว่าการเมืองเพื่อต่อต้านความรุนแรงจากอาวุธปืน และเรียกร้องให้แบนปืนจู่โจมในเมืองนี้ ในระดับรัฐและประเทศ

ขณะที่ทำเนียบขาว เปิดเผยว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน กำลังมองหาช่องทางใช้คำสั่งประธานาธิบดีเพื่อควบคุมความรุนแรงจากปืน