
ชาวเซี่ยงไฮ้ส่วนใหญ่จากทั้งหมด 25 ล้านคน สามารถออกนอกบ้านได้อย่างเสรีหลังมาตรการล็อกดาวน์สิ้นสุดลงเมื่อเที่ยงคืน แต่ก็ไม่กล้าจะเฉลิมฉลองกันอย่างเอิกเกริก เพราะกลัวการระบาดของโควิด-19 จะหวนมาอีก มีเพียงคนกลุ่มย่อย ๆ ที่แสดงความดีใจด้วยการร้องตะโกน ผิวปากและชนแก้วแชมเปญกัน ส่วนที่เหลือได้กลับไปใช้ชีวิตตามปกติด้วยการไปทำงาน ใช้บริการขนส่งสาธารณะ หรือขับรถยนต์ส่วนตัว
ขณะเดียวกันคณะมนตรีรัฐกิจสาธารณรัฐประชาชนจีน หรือเรียกสั้น ๆ ว่าคณะมนตรีรัฐกิจ (State Council) ได้จัดการประชุมฉุกเฉินทางไกล โดยมีผู้เข้าร่วมกว่า 100,000 คน ตั้งแต่ระดับเทศบาล, เมืองและมณฑลทั่วประเทศ โดยนายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง รับตำแหน่งประธานการประชุม และเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่เหล่านี้ เร่ง "รักษาตำแหน่งงาน" และ "ลดการว่างงาน" เพราะจีนที่ได้ชื่อว่ามีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับที่ 2 ของโลก ได้เผชิญความเดือดร้อนจากทุกภาคส่วน นับตั้งแต่การระบาดของโควิด-19 ล่าสุดเมื่อเดือนมีนาคม ทำให้ต้องใช้มาตรการล็อกดาวน์ในหลายเมืองใหญ่ โดยเฉพาะศูนย์กลางทางการเงินอย่างนครเซี่ยงไฮ้ ที่ไม่เพียงแค่ชาวเมืองที่ไม่สามารถออกจากบ้านได้นานถึงหนึ่งเดือนครึ่งเท่านั้น แต่ธุรกิจส่วนใหญ่ก็พลอยหยุดไปด้วย
นายหลี่บอกว่าในบางแง่มุม ผลกระทบทางเศรษฐกิจเดือนมีนาคมกับเมษายน ได้แซงหน้าปี 2563 ซึ่งเกิดการระบาดครั้งแรก โดยอ้างตัวชี้วัดหลายประการ รวมถึงอัตราการว่างงาน การผลิตภาคอุตสาหกรรมที่ลดลง และการขนส่งสินค้า และเรียกสถานการณ์เศรษฐกิจตกต่ำที่เด่นชัดเมื่อต้นเดือนพฤษภาคมว่า "ซับซ้อนและร้ายแรง" ธนาคารเพื่อการลงทุนหลายแห่งได้ปรับลดการคาดการณ์เศรษฐกิจจีนในปีนี้ เมื่อต้นสัปดาห์ UBS ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีนลงสู่ระดับ 3% โดยอ้างความเสี่ยงจากนโยบายโควิดเป็นศูนย์ ในขณะที่ตัวเลขที่จีนคาดการณ์ของปีนี้อยู่ที่ 5.5% ส่วนเมื่อปี 2563 ที่เผชิญการระบาดใหญ่ ตัวเลขร่วงลงไปอยู่ที่ 2.3% ต่ำที่สุดในรอบหลายทศวรรษ ก่อนจะขึ้นไปอยู่ที่ 8.1% เมื่อปีที่แล้ว แต่ในภาพรวมยังมีปัญหาที่ต้องการคำตอบสำหรับเซี่ยงไฮ้หลังยกเลิกล็อกดาวน์
ผลกระทบต่อตลาดหุ้นหลังยกเลิกล็อกดาวน์
การขานรับยกเลิกมาตรการล็อกดาวน์ที่เซี่ยงไฮ้ พบว่าดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดขยับลงในวันนี้ โดยเปิดที่ระดับ 3,179.69 จุด ลดลง 6.74 จุด หรือ -0.21%หลังจากลดลง 0.8% ตลอดวันจันทร์ สะท้อนถึงความเสียหายที่เกิดจากโควิด-19 ซึ่ง UBP และ JPMorgan ระบุว่าเศรษฐกิจจีนน่าจะหดตัวในไตรมาสนี้ อันเป็นผลจากการปิดเซี่ยงไฮ้และที่อื่น ๆ เนื่องจากการหยุดการผลิตและการขนส่งชะงักงัน
การสัญจรที่ท่าเรือและสนามบินในเซี่ยงไฮ้เป็นอย่างไร
ท่าเรือต่าง ๆ กลับมาให้บริการเกือบเต็มขีดความสามารถ นับตั้งแต่กลางเดือนที่ผ่านมาจากการที่คนงานต้องนอน "on-site" เพื่อหลีกเลี่ยงการติดต่อกับคนภายนอก ท่าเรือตลอดแนวชายฝั่งที่ยาวถึง 200 กิโลเมตร รวมทั้งท่าเรือน้ำลึกหยางชาน ที่ได้ชื่อว่าเป็นจุดวางตู้คอนเทนเนอร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ได้รับการคาดหมายว่าจะกลับมาคับคั่ง เมื่อผู้ผลิตเร่งขนส่งสินค้าเพื่อชดเชยตอนที่ล็อกดาวน์ไปตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน ส่วนโรงงาน Gigafactory 3 ของ Tesla ที่ประกอบรถยนต์เพื่อส่งออกไปยังยุโรป 9,000 คัน ตั้งแต่ก่อนยกเลิกล็อกดาวน์ ได้เตรียมขนส่งไปยุโรปและญี่ปุ่นโดยทางเรือแล้วเช่นกัน ด้านสนามบินนานาชาติเซี่ยงไฮ้ผู่ตง, หงเฉียวและผู่ตง ก็เปิดให้สายการบินต่าง ๆ ให้บริการตามปกติ โดยคาดว่าจะมีเที่ยวบินมากกว่า 100 เที่ยวในวันนี้ ซึ่งน้อยกว่าช่วงเวลาปกติของเมื่อปี 2564 ที่มีเที่ยวบินรวมกันราว 1,700 เที่ยวต่อวัน
เซี่ยงไฮ้จะเผชิญการไหลออกจากของผู้คนหรือไม่
มีหลักฐานที่ชัดเจนว่า คนจำนวนมากที่มาจากหลายพื้นที่ของประเทศเตรียมจะออกจากเซี่ยงไฮ้ เพราะกลัวว่ารัฐบาลอาจปรับเปลี่ยนนโยบายอีก แรงงานต่างถิ่นหลายพันคนที่ตกงานในช่วงล็อกดาวน์ พากันเตรียมตัวกลับบ้าน แม้กระทั่งพวกที่มีงานทำดี ๆ แต่เมื่อต้องเผชิญการจัดการรับมือโควิด-19 ของเซี่ยงไฮ้ ก็พากันถอดใจเช่นกัน ซึ่งแม้เซี่ยงไฮ้จะเป็นแม่เหล็กดึงดูดผู้เชี่ยวชาญสาขาต่าง ๆ มานาน 3 ทศวรรษ แต่สภาพประชาชนที่หิวโหยและการปล้นร้านขายของชำ ได้ทำลายภาพลักษณ์ของมหานครที่ได้ชื่อพัฒนามากที่สุดของประเทศ
ศูนย์การค้ากับซูเปอร์มาร์เก็ตยังมีคนมากมายหรือไม่
สถานการณ์ในปัจจุบัน ทำให้ศูนย์การค้าและซูเปอร์มาร์เก็ตรองรับผู้คนได้เพียง 75% ขณะที่ประชาชนส่วนใหญ่ก็ยังกลัวติดเชื้อ เพราะเซี่ยงไฮ้ยังควบคุมการระบาดได้ไม่ 100%