เนปาลพบกล่องดำ-ศพสุดท้ายเหยื่อเครื่องบินตก

โฆษกสำนักงานการบินพลเรือนเนปาล เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่สามารถนำกล่องดำ และกู้ศพทั้ง 22 รายออกจากจุดที่เครื่องบินโดยสารขนาดเล็กของสายการบิน ทารา แอร์ ตกในหุบเขาในเขตมุสตางเมื่อเช้าวันอาทิตย์ได้แล้ว เครื่องบินลำนี้มีกล่องดำกล่องเดียวเป็นกล่องบันทึกเสียงระหว่างภาคพื้นดินกับบนฟ้า และการสื่อสารระหว่างบนฟ้าด้วยกัน ขณะที่เครื่องบินสมัยใหม่มีกล่องบันทึกข้อมูลการบิน และกล่องบันทึกเสียงในห้องนักบิน

หน่วยค้นหากู้ภัยระดมการค้นหารอบใหม่เมื่อเช้าวันนี้ (31 พ.ค.) เพื่อกู้ศพสุดท้าย หลังจากพบศพแล้ว 21 รายเมื่อวันจันทร์จากจุดที่เป็นหุบเขาสูงชัน ที่ระดับความสูงราว 14,500 ฟุต โดยศพผู้เคราะห์ร้าย 10 รายถูกเคลื่อนย้ายไปยังกรุงกาฐมาณฑุ เมืองหลวงแล้วเมื่อวันจันทร์ และอีก 12 ศพได้รับการลำเลียงไปกาฐมาณฑุอีกในวันนี้

รัฐบาลตั้งคณะกรรมการเพื่อตรวจสอบหาสาเหตุเครื่องบินตก และเสนอแนะมาตรการป้องกันอุบัติเหตุสำหรับอุตสาหกรรมการบินในอนาคต

ชาวบ้านคนหนึ่ง เล่าว่า ได้ยินเสียงเครื่องบินตกเมื่อวันอาทิตย์ และสามารถไปถึงจุดที่เครื่องบินตกได้ในเช้าวันจันทร์จากการได้กลิ่นน้ำมัน เขาบอกว่า ดูเหมือนเครื่องบินอาจชนยอดภูเขาลูกเล็กก่อนชนเข้ากับภูเขาลูกใหญ่กว่า

เครื่องบินลำนี้ ซึ่งมีกำหนดใช้เวลาการบิน 20 นาทีจากเมืองโพคาราไปยังเมืองจอมสม ที่อยู่ห่างกัน 80 กม. ขาดการติดต่อกับหอควบคุมการบินเพียง 5 นาทีก่อนถึงกำหนดลงจอด และข้อมูลจาก flightradar24.com ระบุว่า เครื่องบินที่มีอายุ 43 ปีลำนี้ออกจากเมืองโพคาราเมื่อเวลา 9.55 น.ตามเวลาท้องถิ่น และส่งสัญญาณสุดท้ายเมื่อเวลา 10.07 น. ขณะอยู่ที่ระดับความสูง 12,825 ฟุต เที่ยวบินนี้มีผู้โดยสารชาวอินเดีย 4 คน เยอรมนี 2 คน และเนปาล 13 คน และลูกเรือชาวเนปาล 3 คน

เครื่องบินลำนี้เป็นรุ่น DHC-6-300 Twin Otter ผลิตโดยบริษัท de Havilland ของแคนาดา ข้อมูลจาก aviationnepal,com ระบุว่า เครื่องบินรุ่นนี้ถูกใช้งานในเนปาลมานานเกือบ 50 ปี และเคยประสบอุบัติเหตุเกือบ 21 ครั้ง