โฆษกสำนักงานการบินพลเรือน เปิดเผยในวันนี้ (30 พ.ค.) ว่า จนถึงขณะนี้เจ้าหน้าที่พบศพผู้เคราะห์ร้ายแล้ว 14 ศพ และกำลังค้นหาผู้สูญหายอีก 8 รายจากเหตุการณ์เครื่องบินโดยสารขนาดเล็กของสายการบิน ทารา แอร์ของเนปาลประสบเหตุตกในหุบเขาในเขตมุสตางทางภาคเหนือของประเทศเมื่อวันอาทิตย์ แม้สภาพอากาศเลวร้ายมาก แต่ก็สามารถนำทีมค้นหาไปยังจุดพบซากเครื่องบินตกได้
เครื่องบินลำนี้ ซึ่งมีกำหนดระยะเวลาการบิน 20 นาทีขาดการติดต่อกับหอควบคุมการบินเพียง 5 นาทีก่อนถึงกำหนดลงจอด และมีรายงานว่า บนเครื่องบินมีชาวอินเดีย 4 คน ชาวเยอรมัน 2 คน และชาวเนปาล 16 คน
ปฏิบัติการค้นหาเผชิญอุปสรรคจากสภาพอากาศเลวร้าย และสภาพพื้นที่ของหุบเขา และเจ้าหน้าที่เพิ่งกลับมาเริ่มค้นหาต่อเมื่อช่วงเช้าวันนี้ (30 พ.ค.)
โฆษกกองทัพเนปาลโพสต์ภาพซากเครื่องบินที่ระบุหมายเลขชัดเจนว่า 9N-AET ในทวิตเตอร์เช้าวันนี้เพื่อแจ้งว่า ทีมค้นหากู้ภัยพบจุดเครื่องบินตก หลังจากใช้เวลาค้นหานานเกือบ 24 ชม.
เครื่องบินลำนี้ผลิตโดยบริษัท de Havilland ของแคนาดา ออกเดินทางจากเมืองโพคาราเมื่อเวลาราว 9.55 น.ของวันอาทิตย์ตามเวลาท้องถิ่น และมุ่งหน้าไปยังเมืองจอมสอม นครศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม
เนปาลมีอุบัติเหตุทางการบินบ่อยครั้ง ส่วนใหญ่เกิดจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงกะทันหัน และทางขึ้นลงเครื่องบินตั้งอยู่ในบริเวณภูเขาหิน ที่ยากจะเข้าถึง
เมื่อต้นปี 2561 เที่ยวบินสหรัฐฯ-บังกลาเทศ ที่บรรทุกผู้โดยสารและลูกเรือ 71 คนจากกรุงธากาในบังกลาเทศติดไฟลุกไหม้ขณะลงจอดที่กรุงกาฐมาณฑุ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 51 ราย และเมื่อเดือน เม.ย. 2562 เครื่องบินไถลออกนอกรันเวย์และชนกับเฮลิคอปเตอร์ที่จอดอยู่ในสนามบินลุคลา ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย