"อัจฉริยะ" ถามย้อน "ทนายเดชา" พูดขยี้ "แม่แตงโม" จะเป็นทนายทำแมวอะไร

เป็นเรื่องวุ่นๆ ให้ชาวโซเชียลเสพดราม่ามานานกว่า 3 เดือน สำหรับคดีการเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำของ “แตงโม นิดา” นักแสดงสาวชื่อดัง แม้ทางคดี ตำรวจจะส่งฟ้องต่ออัยการจังหวัดนนทบุรีแล้ว  

แต่ประเด็นนอกสำนวน กลับกลายเป็นไฮไลท์ให้ติดตามไม่เว้นวัน ทั้งกรณีนางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของ “แตงโม” ยอมรับว่า ส่งโทรศัพท์มือถือของผู้ตายให้ “บังแจ็ค” ที่มีวีรกรรมฉาวทั่วโซเชียล จนกระแสโจมตีคุณแม่อย่างหนัก

กระทั่งคุณแม่ตัดสินใจแยกทางกับ “ทนายจุ๊กกรู๊” เดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความในคดี เนื่องจากความเห็นไม่ตรงกัน ก่อนโผเข้าปรึกษา “พี่เต้” มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ที่จะนำทีมทนายของพรรคเข้ามาช่วยเหลือ พร้อมตั้งคณะทำงานขึ้นมาค้นหาความจริงว่า เป็นคดีฆาตกรรมหรือไม่

ล่าสุดนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เดินทางไปยังสำนักงานอัยการสูงสุด เพื่อขอความเป็นธรรมในคดีการตายของ “แตงโม” เนื่องจากมองว่า คดีนี้ไม่ใช่อุบัติเหตุ แต่เป็นฆาตกรรม

นายอัจฉริยะ เปิดเผยว่า วันนี้มาร้องขอความเป็นธรรม 8 ข้อ โดยต้องการให้อัยการสูงสุด มีคำสั่งให้พนักงานอัยการ เพื่อให้กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 สอบพยานเพิ่มอีก 3 ปาก ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ เช่น พญ.คุณหญิง พรทิพย์ โรจนสุนันท์ ในฐานะพยานคนกลาง , พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตศัลยแพทย์โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เกี่ยวกับเรื่องบาดแผล , และผู้เชี่ยวชาญด้านเรือ ที่ระบุว่า ผู้ตายไม่สามารถตกท้ายเรือได้

รวมถึงต้องการให้มีการตรวจคราบเลือดบนเรือใหม่อีกครั้ง เพราะเชื่อว่า ตรงนี้จะพิสูจน์ได้ว่า ไม่ใช่เป็นคดีประมาท , หรือเรื่องตรวจสอบเสื้อผ้าคนบนเรือ ที่ทราบมาว่า ไม่มีการตรวจสอบ , หรือกรณี “นายบอล” มีการนำเรือลำเกิดเหตุ มีเก็บไว้ที่อู่ และนำออกไปใช้อีกหรือไม่ โดยข้อเรียกร้องทั้ง 8 ข้อ ใช้เวลาตรวจสอบไม่เกิน 10 วันน่าจะได้คำตอบ

ผู้สื่อข่าวถามว่า การเรียกร้องครั้งนี้จะทันอัยการจังหวัดนนทบุรี ส่งฟ้องพรุ่งนี้ (27 พ.ค.) หรือไม่ “อัจฉริยะ” ตอบว่า ตามสิทธิรัฐธรรมนูญ ถ้ามีการร้องขอความเป็นธรรม อัยการก็ยังส่งฟ้องไม่ได้ ขอย้ำว่า การเคลื่อนไหวครั้งนี้ ไม่ได้ทำอะไรให้เกิดความเสียหาย แต่แค่ต้องการค้นหาความจริง โดยเชื่อว่า หากมีการตรวจสอบตามคำเรียกร้อง 8 ข้อ จะทำให้สิ้นสงสัยในหลายประการ

เมื่อถามว่า กรณีถูกจับโยงว่าร่วมมือกับ “บังแจ็ค” ที่ได้โทรศัพท์มือถือ “แตงโม” จากคุณแม่นั้น “อัจฉริยะ” กล่าวว่า “บังแจ็ค” เคยติดต่อมา 1 ครั้ง เมื่อวันที่ 16 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยโชว์ไลน์คลิปเสียงตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรีรับเงิน แต่ตนเองไม่เชื่อ และไม่เคยให้ค่ากับพวก 18 มงกุฎ

ถามถึงความเห็นกรณี “ทนายเดชา” ถอนตัวจากการทำคดีให้คุณแม่ “อัจฉริยะ” ตอบว่า ในฐานะผู้ให้คำปรึกษาลูกความ ไม่ควรไปด่าคุณแม่แบบนั้น เพราะแม่ไม่รู้จะไปปรึกษา และส่วนตัวเชื่อว่า “ทนายเดชา” ได้ดูรูปในมือถือแล้ว แต่คงกล่อมให้เชื่อตำรวจ ทั้งที่คนเป็นแม่มีสิทธิ์สงสัยว่าลูกเขาถูกฆาตกรรมหรือเปล่า

“แม่เขามีสิทธิ์สงสัย ว่าลูกเขาอาจจะถูกทำร้าย ถูกฆาตกรรมก็ได้ แต่ที่ปรึกษาไปอิงตำรวจอย่างเดียว เขาไม่รู้จะทำยังไง เขาเคว้งไปปรึกษาบังแจ็ค มันพูดกะล่อนจนแม่หลงเชื่อ ฉะนั้นควรปล่อยให้ตำรวจแถลงว่า ใครเอามือถือให้ใคร ไม่ใช่แถลงเอง โดยการเอาลูกความมาขยี้แบบนี้ แล้วบอกว่าสุดท้ายคุณไม่เกี่ยว แล้วจะเป็นทนายทำแมวอะไร ก่อนเอาตัวรอดตามสไตล์คุณเหมือนเดิม”

ส่วนที่แม่ต้องการมาปรึกษา ถือเป็นเรื่องดีในการร้องขอความเป็นธรรมต่างๆ เพราะคุณแม่มีสิทธิ์ตามกฎหมาย แต่ไม่เห็นด้วยหากจะฟ้องร้อง “ทนายเดชา” หรือบุคคลอื่นๆ เพราะควรมุ่งตามหาความจริงให้ปรากฏเสียก่อน ในการตายของลูก แม้จะทำตัวไม่เหมาะสมก็ตาม แต่ควรแจ้งความ “บังแจ็ค” มากกว่า แต่เมื่อแม่พลาดส่งโทรศัพท์ไปแล้ว จึงดำเนินคดีไม่ได้ ยกเว้นกรณีเผยแพร่ภาพไม่เหมาะสม

ถามถึงกรณี “กระติก” อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ หนึ่งในผู้ต้องหา ท้าทายให้เปิดหลักฐาน “อัจฉริยะ” กล่าวว่า ส่วนตัวอยากเปิดวันนี้พรุ่งนี้ แต่ก่อนจะเปิดต้องตรวจสอบให้ชัดเจน จนมั่นใจว่าหลักฐานดังกล่าว จะมัดเอาผิดคดีฆาตกรรมได้ ไม่ใช่เอาผิดแค่คดีประมาท