นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี ร่วมกับนายกิตติพันธ์ พานสุวรรณ อธิบดีกรมศิลปากร และนายมงคล ศิริพัฒนกุล นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมจังหวัดสระบุรี ร่วมจัดทำแผนพัฒนาการท่องเที่ยวย้อนรอยประวัติศาสตร์ ของอำเภอ "พระพุทธบาท" จังหวัดสระบุรี โดยได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คณะครู นิสิต นักศึกษา นักเรียน และประชาชนในอำเภอ
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้การท่องเที่ยวตามโบราณสถานต่างๆใน จ.สระบุรี ซบเซาลง ส่งผลทำให้ปริมาณนักท่องเที่ยวเดินลดลง ดังนั้น ทางสมาคมการท่องเที่ยงเชิงวัฒนธรรม และจังหวัดสระบุรี จึงได้จัดทำแผนฟื้นฟูแหล่งท่องเที่ยว และโบราณสถานใน อ.พระพุทธบาท โดยให้ประชาชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการอนุรักษ์และเผยแพร่สถานที่ที่เป็นประวัติศาสตร์ ที่มีอายุมายาวนานเกือบ 400 ปี และเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจรวมถึงการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของจังหวัดสระบุรีให้กลับมาได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวอีกครั้ง
นายกิตติพันธ์ พานสุวรรณ อธิบดีกรมศิลปากร เปิดเผยว่า สำหรับจังหวัดสระบุรี นอกจากโบราณสถานของวัดพระพุทธบาท ยังมีโบราณสถานอีกหลายแห่ง ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาเยี่ยมชมความงดงามด้านโบราณสถาน ที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้ เช่น วัดพระพุทธฉาย ศาลาเปลื้องเครื่อง และ พิพิธภัณฑ์รอย "พระพุทธบาท" ซึ่งถือเป็นสถาปัตยกรรม ที่เป็นต้นแบบให้กับสถานที่อื่นๆ ในประเทศ เนื่องจากรูปแบบของสถาปัตยกรรม เป็นของช่างหลวง ทางกรมศิลปากร ได้มีการส่งช่างเข้ามาศึกษา และอนุรักษ์อย่างสม่ำเสมอ ทั้งสำนักช่างสิบหมู่ นักสถาปัตยกรรมของกรมศิลปากร
โดยกรมศิลปากร ซึ่งนอกจากจะรับผิดชอบดูแลบูรณะโบราณสถาน อาคารสถาปัตยกรรมต่างๆแห่งนี้แล้ว ยังต้องสร้างองค์ความรู้ในหมู่ประชาชนเกี่ยวกับเรื่องแหล่งศึกษาเรียนรู้สถาปัตยกรรม วรรณคดี วิจิตศิลป์ของวัดพระพุทธบาท ซึ่งมีอยู่ครบถ้วนและมีประวัติความเป็นมาเกือบ 400 ปี
นอกจากนี้ยังมีองค์ประกอบหลากหลาย ทั้งถนน ภูเขา น้ำ น้ำตก ซึ่งเหมาะสมในการผลักดันทางจังหวัดพัฒนาให้เป็นแหล่งการท่องเที่ยว ทางกรมศิลปากรเองจึงได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม จึงได้ร่วมมือกับทางจังหวัดสระบุรี และสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมจังหวัดสระบุรี ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์วัฒนธรรมในอำเภอ "พระพุทธบาท"
เพื่อให้นักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไปที่สนใจเดินทางมาท่องเที่ยวได้สัมผัสถึงธรรมชาติและโบราณสถานต่าง ๆ ได้ตลอดทั้งปีเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในจังหวัดสระบุรีให้กลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิดคลี่คลายลง