svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

"แซน" ยันไปร่วมงานเผาแตงโม ไม่ได้เป็นโควิด เผยเจอบังแจ็คป่วน

22 พฤษภาคม 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"แซน" ยืนยันจะไปร่วมงานเผา "แตงโม" ปัดเป็นโควิด เผยเจอ "บังแจ็ค" ป่วน วอนคนโพสต์ภาพรีบโพสต์ให้หมดเหนื่อยแล้ว

วันนี้ (22 พ.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น. ที่ สภ.เมืองนนทบุรี แซน วิศาพัช มโนมัยรัตน์ ผู้ต้องหาคดีการเสียชีวิตของดาราสาว "แตงโม นิดา" พร้อมด้วยนายพรศักดิ์ วิภาสอาภานนท์ ทนายความส่วนตัว เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี ตามคำสั่งของอัยการจังหวัดที่ให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำผู้ต้องในคดีทั้ง 6 คน เพิ่มเติม เกี่ยวกับพฤติการณ์ให้มีความชัดเจน โดย แซน วิศาพัช ได้ปฎิเสธข่าวการติดโควิด-19 ก่อนจะขอตัวขึ้นไปพบพนักงานสอบสวนตามที่ได้นัดหมายไว้

 

ภายหลังการเข้าให้ปากคำประมาทครึ่งชั่วโมงแล้ว แซน วิศาพัช ได้ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า ตนไม่ได้ถูกแจ้งข้อหาใด ๆ เพิ่มเติม เพียงแต่เดินทางมาให้ปากคำเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวนตามคำสั่งอัยการ และตนยังคงยืนยันให้คำการเดิมทุกอย่าง และขอปฎิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด

 

ทั้งนี้ แซน รับว่า ภาพที่หลุดออกมาในโซเชียลทั้งหมดเป็นภาพที่ถ่ายบนเรือจริง แต่ตนไม่ทราบว่าใครเป็นคนนำมาโพสต์และมีวัตถุประสงค์อะไร สำหรับคนที่ปล่อยภาพตนอยากบอกว่า มีอะไรก็รีบ ๆ ปล่อยออกมาคดีมันจะได้จบ ๆ ไปตนเหนื่อยแล้ว ไม่ได้รู้สึกอะไรหรือแปลกใจอะไรกับภาพเหล่านั้น และยืนยันว่าในวันที่ 24 พ.ค. นี้ ตนเองจะเดินทางไปร่วมงานศพของแตงโมด้วย โดยตนได้พูดคุยและขออนุญาตกับคุณแม่ไปแล้ว แม่ก็อนุญาตให้ตนไปร่วมงานแตงโมได้ ส่วนคนอื่น ๆ บนเรือจะไปร่วมงานด้วยหรือไม่นั้น ตนเองไม่ทราบ เพราะไม่ได้มีการพูดคุยกันในเรื่องนี้
 

 

แซน วิศาพัช มโนมัยรัตน์ ผู้ต้องหาคดีการเสียชีวิตของดาราสาว "แตงโม นิดา"

แซน วิศาพัช กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ตนได้รับเบอร์แปลก ๆ โทรเข้ามาหาตน พร้อมระบุชื่อว่า แจ็ค ด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยชัด จึงวางสายทิ้งไปเพราะไม่รู้จักบุคคลชื่อนี้ จากนั้นมาก็จะมีเบอร์โทรศัพท์เบอร์นี้โทรเข้ามาหาตนวันละ 4 - 5 ครั้งทุกวัน ซึ่งตนก็ไม่รับสาย ก่อนจะมีข้อความจากเบอร์โทรศัพท์ดังกล่าวส่งมาว่า “เป็นเรื่องด่วนนะครับรบกวนรับสายหน่อย” ซึ่งตนก็ไม่รู้วัตถุประสงค์ว่าเขาต้องการอะไร และตนไม่มีเรื่องอะไรที่ต้องคุยด้วย 

 

 

บังแจ็ค ราชา ไฮเดอร์
 

 

 

แซน วิศาพัช กล่าวอีกว่า เรื่องที่ลุงคนหนึ่งพูดเป็นฉาก ๆ ว่า มีการใช้มีดกรีดขาบนเรือ รอให้เลือดออกแล้วค่อยนำร่างโยนน้ำนั้น ใครจะไปทำอะไรแบบนั้นได้ยังไง ถ้าเป็นเรื่องจริงคงเป็นลมตกน้ำกันไปแล้ว เพราะแค่ตนเห็นเลือดก็จะเป็นลมแล้ว เรื่องที่พูด ๆ กันมามันเป็นหนัง แต่ในชีวิตจริงมันไม่ได้ซับซ้อนขนาดนั้น มันไม่ใช่เรื่องที่ใครจะไปทำอะไรกับใครก็ได้ง่ายดายแบบนั้น

 

สังคมต้องคิดกันดูนิดนึงอย่าไปเชื่อตามที่เขาบอกมาทั้งหมด ทุกคนคบเป็นเพื่อนกันมาเป็น 10 ปี ใครจะปล่อยให้เพื่อนถูกทำร้ายถูกกรีดขาแล้วนั่งดูเลือดออกแบบนั้นมันโหดร้ายเกินไป ตนอยากถามคนที่คิดเรื่องนี้ว่า เขามีปัญหาหรือปมอะไรในใจหรือเปล่า จึงคิดได้ขนาดนี้เพราะคนอื่นเขาคิดเรื่องแบบนี้ไม่ได้ 

 

 

นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม

logoline