จากกรณีเมื่อคืนที่ผ่านมา (18 พ.ค.65) ตำรวจ สน.บางโพงพาง รับแจ้งเหตุชิงทรัพย์รถแท็กซี่ บนถนนพระราม 3 ปากซอย 60 แขวงช่องนนทรี พบ นายวิรัตน์ จันทร์ผือโป้ด อายุ 62 ปี เจ้าของรถแท็กซี่ส่วนบุคคลยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอัลติส สีเขียวเหลือง ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ด้วยความตระหนก โดยเหตุการณ์ดังกล่าว "หนุ่มคลั่ง" ทำร้ายเด็กในร้านอาหารย่านพระราม 3 พร้อมทั้งชิงรถแท็กซี่เพื่อหลบหนี้ โดยพฤติกรรมค่อนข้างอุกอาจ และลักษณะอาการคล้ายคนคลุ้มคลั่ง เหมือนคนเมายาเสพติด วิ่งมาที่รถตน ก่อนเปิดประตู ขับรถออกไป โดยระหว่างเกิดเหตุมี "พลเมืองดี" คนหนึ่งพยายามที่จะหยุดรถ "หนุ่มคลั่ง" แต่เกิดสูญหายระหว่างทาง จนขณะนี้ยังตามตัวไม่เจอ
ล่าสุด (19 พ.ค.65) เจ้าหน้าที่พบศพนายนพดล พิมพ์ดี หรือบิว อายุ 30 ปี ซึ่งเป็นพลเมืองดีจะหยุดรถ "หนุ่มคลั่ง" แต่เกิดสูญหายระหว่างทาง
โดยนายศักดิ์ดา ถวัลย์วรกิจ อายุ 48 ปี เจ้าของร้านบุหลันดั้นเมฆ เปิดเผยว่าขณะเกิดเหตุเป็นช่วงเวลาประมาณสองทุ่มครึ่ง มีชายคลุ้มคลั่ง บุกเข้ามาเข้าที่ร้านแล้วใช้ขวดตีนายนพดล ซึ่งเป็นพนักงานรับรถประจำร้าน ก่อนที่ชายคลุ้มคลั่งรายนี้ จะเข้าไปชิงรถแท็กซี่แล้วขับหลบหนีไป โดยนายนพดลจึงตัดสินใจ
กระโดดเกาะบริเวณฝาท้ายกระโปรงของรถแท็กซี่เพื่อติดตาม แต่ชายคุ้มคลั่งรายนี้กลับไม่ยอมหยุดรถแล้วขับออกไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งระหว่างทางมีกล้องหน้ารถที่สัญจรอยู่บนถนนสามารถบันทึกเหตุการณ์เอาไว้ได้ จากนั้นชายโครงข้างด้วยขับรถแท็กซี่ไปชนบริเวณขอบสะพานจนยางแตก ไม่สามารถไปต่อได้ จึงคาดว่านายนพดล อาจกระเด็นตกจากรถลงแม่น้ำเจ้าพระยา
หลังเกิดเหตุทางพนักงานร้าน รวมถึงตัวนายศักดา เจ้าของร้านได้ช่วยกันออกติดตามค้นหาแต่ก็ไม่พบ จนกระทั่งมีข่าวว่านายนพดลถูกเจ้าหน้าที่กู้ภัยส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล ทั้งหมดจึงตระเวนออกตามหาตามโรงพยาบาลต่างๆทั้งโรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ โรงพยาบาลเลิดสินและโรงพยาบาลตากสิน แต่สุดท้ายทุกโรงพยาบาลก็ไม่ได้รับรายงานว่า มีนายนพดลเข้ารักษาตัว
สำหรับนายนพดล พลเมืองดีรายนี้ได้ร่วมงานกัน ร่วมงานกันมานานถึง 13 ปี โดยถือเป็นคนในครอบครัวไปแล้ว ซึ่งนายนพดลเป็นคนอัธยาศัยดีเป็นที่รักของลูกค้า และถือเป็นสุภาพบุรุษคนหนึ่งมีน้ำใจชอบช่วยเหลือผู้อื่น