"หมอชลน่าน" ชี้ "อุ๊งอิ๊ง" คือจุดเชื่อมทุกฝ่ายกลับมาร่วมมือกัน

17 พฤษภาคม 2565 นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เปิดเผยระหว่างเข้าร่วมงานรำลึก 30 ปี วีรชนพฤษภา 35 ถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ช่วงสมัยเปิดสภา ว่า สัปดาห์หน้าคาดว่าจะได้อภิปรายไม่ไว้วางใจอย่างน้อยในช่วงเดือนมิถุนายน ซึ่งเป็น 2 สัปดาห์หลังจากบรรจุร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง และพ.ร.ป.การเลือกตั้ง โดยการอภิปรายครั้งนี้เป็นการอภิปรายครั้งสุดท้าย ดังนั้น ฝ่ายค้านมีความพร้อมเต็มเปี่ยม มั่นใจว่าจะทำให้ ส.ส.ทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาลยอมรับในเหตุผล ข้อหา ข้อเท็จจริง และข้อกฎหมายในการอภิปราย ซึ่งหลายพรรคก็อยากทำเพื่อประเทศบ้านเมือง ดังนั้นต้องตัดสินใจมาลงคะแนนไม่ไว้วางใจ

ทั้งนี้ ส่วนตัวก็มีความคาดหมายทุกพรรค ส่วนพรรคไหนจะเห็นอย่างไร จะมีสิ่งที่ปิดกั้นในการแสดงออกหรือไม่ ก็แล้วแต่พรรค ซึ่งมองว่าพรรคเล็กมีความเป็นอิสระ เชื่อว่าจะได้เห็น ส.ส.ที่เห็นแก่บ้านเมือง

ส่วนกรณีที่ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. และเครือข่ายประชาชน มองการที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรือ อุ๊งอิ๊ง ในฐานะหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ชวนคนเสื้อแดงกลับบ้าน ทั้งหมดจะมีผลต่อการเลือกตั้งของพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า การที่พรรคเพื่อไทยจะชนะการเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์ ทุกฝ่ายโดยเฉพาะคนที่สนับสนุนพรรคต้องร่วมมือกัน เมื่อดูฐานของคนที่สนับสนุนพรรคเพื่อไทย ตั้งแต่สมัยไทยรักไทยไปจนถึงพรรคพลังประชาชน เกิดขึ้นในปี 2551-2553 

"ตอนนั้นเราถูกกระทำ พวกเราถูกแยกสลาย หรือตั้งเงื่อนไขให้มีการแยกสลายไป แต่ละที่แต่ละแห่ง แต่ละคนก็กระจัดกระจายออกไป กลไกที่จะมารวมตัวกันมันก็เลยถูกปิดกั้น ดังนั้น ครอบครัวเพื่อไทยจึงเชิญ คนที่มีแนวคิด มีวิธีการที่ต้องการประชาธิปไตยที่แท้จริงมาร่วมแรงร่วมใจกัน อีกครั้งหนึ่ง" นพ.ชลน่าน ระบุ

เมื่อถามว่า การให้คนเสื้อแดงกลับมาอีกครั้งจะเป็นการสร้างความขัดแย้งหรือไม่ นพ.ชลน่าน ยืนยันว่า ไม่ได้ใช้คำว่าเสื้อแดง ความเป็น นปช. ก็ยังติดตัวพวกเขา แต่เมื่อมาร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย ก็ชวนมาสมัครสมาชิกพรรค มาเป็นสมาชิกครอบครัวเพื่อไทย ส่วนจะมีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่นั้น ความเป็นครอบครัวเพื่อไทยมีการแสดงออกทางสิทธิเสรีภาพทางการเมืองมากกว่าเป็น นปช. ที่มีข้อจำกัดมากกว่า 

สำหรับกรอบเวลาการเปิดตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย หากยุบสภาจะประกาศทันที ส่วนจะเป็น น.ส.แพทองธาร หรือไม่ ยังไม่สามารถบอกได้ ขึ้นอยู่กับประชาชน ยังอยู่ในกระบวนการพิจารณาของพรรค โดยตอนนี้มีความชัดเจนแล้วว่าจะส่งทั้งหมด 3 รายชื่อ ซึ่งคณะทำงานกำลังดำเนินการอยู่เรื่อยๆ โดยมองว่าแคนดิเดตที่พรรคเพื่อไทยเสนอ จะต้องทำให้ประชาชนว้าว ส่วนการลงพื้นที่ของ น.ส.แพทองธาร แม้ได้รับเสียงตอบรับจากประชาชนจำนวนมาก แต่จะเหมาะสำหรับนั่งเป็นแคนดิเดตนายกฯ นั้นยังไม่สามารถด่วนสรุป ต้องให้เวลาพอสมควร แต่ที่ผ่านมากระแสตอบรับค่อนข้างดี 

นพ.ชลน่าน กล่าวยืนยันว่า การลงพื้นที่ของ น.ส.แพทองธาร ไม่ได้เป็นการหยั่งเชิง แต่เป็นการประกาศตัวว่าจะมาทำงานในพรรคเพื่อไทย โดยเข้ามาแบบเปิดเผย โปร่งใส และตรวจสอบได้ ในนามสมาชิกพรรค ทำงานดูแลนโยบาย ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญของพรรค นอกจากนี้ การเข้ามาของน.ส.แพทองธาร ยังเป็นจุดเชื่อมโยงตามที่บอกว่า บ้านหลังใหญ่หัวใจเดิม หัวใจเดิม คือ อุดมการณ์ที่ร่วมงานตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทย ดังนั้น น.ส.แพทองธารจึงเป็นจุดเชื่อมให้ทุกฝ่ายสามารถมาร่วมมือกันได้