ผู้ก่อเหตุกราดยิงตั้งใจฆ่าคนผิวดำให้ได้มากที่สุด

เหตุกราดยิงที่ซูเปอร์มาร์เก็ต ในเมืองบัฟฟาโล รัฐนิวยอร์ก ซึ่งทำให้มีผู้ถูกยิง 13 คน เสียชีวิต 10 ราย กำลังถูกสอบสวนในฐานะคดีก่อความรุนแรงแบบสุดโต่งซึ่งมีแรงจูงใจจากความเกลียดชังทางเชื้อชาติ โดยตำรวจเปิดเผยว่า ผู้ก่อเหตุ ที่มีชื่อว่า เพย์ตัน เกนดรอน ชายผิวขาวอายุ 18 ปี ขับรถเป็นระยะทางไกลกว่า 320 กิโลเมตร เพื่อเลือกสถานที่ก่อเหตุที่มีประชากรผิวดำอาศัยอยู่อย่างหนาแน่น และเขายังได้สำรวจสถานที่ก่อเหตุ 1 วัน ก่อนลงมือด้วย

ไบรอน บราวน์ นายกเทศมนตรีเมืองบัฟฟาโลเปิดเผยว่าผู้ก่อเหตุตั้งใจที่จะเอาชีวิตคนผิวดำให้ได้มากที่สุดในการก่อเหตุครั้งนี้ โดยผู้ที่ถูกยิงในซูเปอร์มาร์เก็ต 13 คน เป็นคนผิวดำมากถึง 11 คน ในจำนวนผู้เสียชีวิต ก็มีผู้ชายคนหนึ่งที่กำลังซื้อเค้กเพื่อกลับไปฉลองวันเกิดลูกชายที่บ้าน และผู้หญิงที่แวะซื้อของหลังจากไปเยี่ยมสามีที่โรงพยาบาล

คำถามที่หลายฝ่ายกำลังต้องการคำตอบก็คือ เกนดรอน ลงมือก่อเหตุครั้งนี้ได้อย่างไร ทั้งที่เขาเป็นคนที่อยู่ในบัญชีรายชื่อเผ้าระวังของตำรวจ และเมื่อเดือนมิถุนายนปีที่แล้ว เขาเคยโพสต์ข้อความขู่ว่าจะก่อเหตุกราดยิงที่โรงเรียน และเขาประกาศชัดเจนว่าตัวเองว่าเป็นพวกคลั่งลัทธิฟาสซิสต์ และ White Supremacy ที่เชื่อว่าคนผิวขาวคือเชื้อชาติที่มีอภิสิทธิ์เหนือเชื้อชาติอื่น

การก่อเหตุครั้งนี้ มีการไลฟ์สดผ่านโซเชียลมีเดีย ซึ่งที่ผ่านมา โซเชียลมีเดียกลายมาเป็นแพลตฟอร์มสำคัญที่คนที่มีแนวคิดหัวรุนแรงคลั่งชาติ ใช้เป็นช่องทางในการเผยแพร่ความเกลียดชัง หรือบริโภคข้อมูลที่มีแต่จะก่อให้เกิดความเกลียดชังมากขึ้น ซึ่งโซเชียลมีเดียหลายบริษัทยังไม่สามารถกำจัดเนื้อหาที่อันตรายเหล่านี้ให้หมดไปได้

นอกจากนี้ ประเด็นเรื่องการควบคุมอาวุธปืนก็ถูกนำกลับมาโต้เถียงอีกครั้งในสหรัฐฯ ซึ่งในแต่ละปี มีผู้เสียชีวิตด้วยอาวุธปืนในสหรัฐฯ มากกว่า 40,000 คน ทั้งจากการใช้ปืนฆ่าตัวตาย หรือก่อเหตุยิงผู้อื่น

โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และ จิล ไบเดน สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง จะเดินทางไปที่เมืองบัฟฟาโลในวันพรุ่งนี้เพื่อให้กำลังใจครอบของผู้สูญเสีย ซึ่งไบเดนได้แถลงข่าวหลังเกิดเหตุว่า ทุกคนต้องร่วมมือกันแก้ไขปัญหาความเกลียดชังที่เป็นเหมือนสนิมกัดกร่อนจิตวิญญาณของอเมริกา