จี7 วิจารณ์อินเดียห้ามส่งออกข้าวสาลีซ้ำเติมวิกฤต

เซม ออซดีมีร์ รัฐมนตรีเกษตรกรรมของเยอรมนี แถลงข่าวภายหลังการประชุมระดับรัฐมนตรีเกษตรกรรมของกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำทั้ง 7 หรือ จี7 ที่เมืองสตุตการ์ต ของเยอรนีเมื่อวันเสาร์ว่า “หากทุกคนเริ่มใช้มาตรการจำกัดการส่งออก หรือ ปิดตลาด จะทำให้วิกฤตเลวร้ายลง” และเรียกร้องให้อินเดียแสดงความรับผิดชอบในฐานะประเทศสมาชิกกลุ่มประเทศจี20 กลับมาส่งออกข้าวสาลีตามปกติ

นอกจากนี้ที่ประชุมเสนอแนะให้นำเรื่องนี้เข้าสู่การประชุมสุดยอดผู้นำจี7 ที่เยอรมนีในเดือนหน้า ที่นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ได้รับเชิญให้เข้าร่วมด้วย

อินเดีย ซึ่งเป็นผู้ผลิตข้าวสาลีรายใหญ่อันดับสองของโลก ประกาศเมื่อวันศุกร์ว่า ห้ามการส่งออกข้าวสาลีโดยไม่ได้รับการอนุญาตจากรัฐบาล และให้เหตุผลว่าคลื่นความร้อนเมื่อเร็ว ๆ นี้ส่งผลกระทบให้ผลผลิตลดลง บวกกับราคาสินค้าทั่วโลกพุ่งสูงขึ้นเพราะสงครามในยูเครน ทำให้อินเดียกังวลเกี่ยวกับความมั่นคงทางอาหารภายในประเทศ

ข้อตกลงการส่งออกทั้งหมดที่ทำไว้ก่อนการประกาศห้ามจะยังดำเนินการได้ตามสัญญา แต่สัญญาการส่งออกใหม่ทั้งหมดต้องได้รับการอนุมัติจากรัฐบาล

การตัดสินใจของอินเดียส่งผลซ้ำเติมประเทศที่กำลังประสบปัญหาขาดแคลนข้าวสาลี เนื่องจากรัสเซียบุกยูเครน เพราะทั้งสองประเทศเป็นแหล่งส่งออกข้าวสาลีรายใหญ่ของโลก

อินเดียส่งออกข้าวสาลี 7 ล้านตันในปีงบประมาณสิ้นสุดเมื่อเดือน มี.ค. เพิ่มขึ้นกว่า 250% จากปีก่อนหน้า และเมื่อเดือนที่แล้วส่งออกข้าวสาลีได้ 1.4 ล้านตัน

รัฐมนตรีเกษตรกรรมเยอรมนี ยังกล่าวแสดงความกังวลเรื่องเรือรบรัสเซียปิดล้อมท่าเรือหลายแห่งของยูเครน ทำให้ข้าวสาลีราว 20 ล้านตันยังค้างอยู่ที่ไซโล และบอกว่า จำเป็นต้องเร่งส่งออกข้าวสาลีจำนวนนี้โดยด่วน

และในเวทีประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศจี7 ที่เมืองวังเกลของเยอรมนี เป็นวันสุดท้ายเมื่อวันเสาร์ อันนาลีนา แบร์บ็อค รัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมนี แถลงว่า รัสเซียตั้งใจขยายสงครามทางทหารต่อยูเครนเป็นสงครามธัญพืช หรือ สงครามข้าวสาลี โดยการปิดกั้นการส่งออกธัญพืชของยูเครน อันเป็นผลจากการทำลายเส้นทางขนส่งและโกดัง รัสเซียกำลังทำให้ปริมาณธัญพืชในโลกลดลง ราคาพุ่งสูงขึ้นในทั่วโลก และเสี่ยงทำให้เกิดความหิวโหย