ความคืบหน้ากรณีโซเชียลได้มีการแชร์ภาพ “เสาหลักนำทาง” หรือ “เสานิรภัย” สีขาวดำ ตั้งอยู่ริมถนนพื้นที่ จ.น่าน มีลักษณะแตกหัก โดยภายในเสา มีการสอดไส้คล้าย "ไม้ไผ่" ซึ่งภายหลังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยืนยันว่า เป็นเสายางพาราที่สร้างตามนโยบายของรัฐบาล ในการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกยางพารา ไม่ได้มีการทุจริตแต่อย่างใด
ล่าสุด วันนี้ (9 พ.ค.) ที่ศาลากลาง จ.น่าน นายฉัตรชัย วีระเชวงกุล ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดน่าน ได้กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า เมื่อวันที่ 6 พ.ค. ที่ผ่านมา ป.ป.ช. จ.น่าน และเครือข่ายภาคประชาชน ได้เข้ารับทราบข้อมูลจาdสำนักงานทางหลวงน่านที่ 1 และลงพื้นที่จริงเพื่อตรวจสอบ
โดยจากการตรวจสอบที่ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1168 สายภูเพียง - แม่จริม (แม่-จะ-ริม) ระหว่างหลักกิโลเมตรที่ 10 - 14 มีการใช้เสาหลักนำทางที่ผลิตจากยางพารา จำนวน 260 ต้น เสียหายไป 5 ต้น ทั้งหักและปริแตกและเกิดจากไฟไหม ซึ่งนอกจากพื้นที่ดังกล่าวแล้ว ที่อำเภอสันติสุข ก็มีการติดตั้งเสาหลักนำทางยางพาราด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ส่วนในเรื่องของราคาเสาดังกล่าวนั้น เป็นเรื่องของกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง ที่จะต้องตรวจสอบเอกสารที่แขวงทางหลวงน่านที่ 2 ส่งมาให้ จึงต้องให้เวลาให้เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ประจำจังหวัดน่าน ได้ตรวจสอบรวบรวมพยานหลักฐานก่อน
ขณะที่ นายวิบูรณ์ แววบัณฑิต ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน กล่าวว่า กรณีนี้ทางแขวงทางหลวงน่านที่ 1 ได้ออกมาชี้แจงแล้วว่า เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล ที่จะใช้ยางพาราเป็นหลักนำทางเพื่อความปลอดภัยของประชาชน และเป็นการส่งเสริมการใช้ผลิตภัณฑ์ภายในประเทศ รวมถึงช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกร
ทั้งนี้หากประชาชนพบเห็นมองแล้วไม่ชอบมาพากล ก็สามารถที่จะตรวจสอบจากหน่วยงานต่าง ๆ ได้โดยตรง หรือหน่วยงานสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน หรือหน่วยงานที่มีหน้าที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นหูเป็นตา
ด้าน นายนรินทร์ เอี่ยมทอง รองผู้อำนวยการทางแขวงทางหลวงน่านที่ 1 ระบุว่า เสาหลักนำทางยางพาราที่มีแกนกลางเป็นไม้ไผ่นั้น มีราคาต้นละ 2,050 บาท อายุการใช้งาน 3 – 4 ปี โดย แขวงฯ น่านที่ 1 ได้รับงบประมาณในการจัดชื้อหลักนำทางยางพาราในปี 64 ตามโครงการช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางพาราของรัฐบาล
และได้นำมาติดตั้งแทนเสาคอนกรีตที่มีอยู่ และติดตั้งเพิ่มเติมในส่วนที่ติดตั้งไม่ครบ ซึ่งคุณสมบัติของเสาคือ ช่วยลดการสูญเสียจากการชน และเป็นแนวนำทางในการขับรถ แต่ไม่ได้ป้องกันรถชน เพราะถ้าชนไม่ว่าเป็นเสาคอนกรีตหรือเสายางพาราก็กั้นไม่อยู่
ส่วนสาเหตุที่มีแกนเป็นไม้ไผ่ เนื่องจากตอนได้เสามาเสามีความอ่อน ทำให้การติดตั้งทำได้ยาก จึงได้นำไม้ไผ่สอดข้างใน เป็นการติดตั้งตามแบบมาตรฐานของกรมทางหลวง และเมื่อแตกหักจึงทำให้เห็นมีไม้ไผ่สอดอยู่ด้านใน ไม่ได้เป็นการคอรัปชั่นหรือสอดไส้เสาหลักเพื่อลดต้นทุนแต่อย่างใด
ทั้งนี้แม้ เสาหลักนำทางยางพารา จะมีราคาที่แพงกว่าเสาคอนกรีต แต่ก็สามารถช่วยรับซื้อยางพาราจากเกษตรกรได้มากว่าเดิม นอกจากนี้ในอนาคตจะขอความร่วมมือการยางฯ ในการวิเคราะห์ ผลิตภัณฑ์อื่นที่ใช้ยางพารา เช่น แบริเออร์ก่อสร้าง ที่ใช้ยางพารากั้นขอบทาง