"หมอปลา" พบ "พระพยอม" วอนจัดการพระนอกรีต เปรียบเหมือนขยะ

วันนี้  (2 พ.ค. 65) ที่วัดสวนแก้ว อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี นายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือหมอปลา พร้อมคณะ ได้เดินทางเข้ากราบนมัสการ พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว เพื่อปรึกษาและขอคำแนะนำเรื่องอดีตพระกาโตะ ที่หลังจากลาสิขาบทไปแล้ว ยังมีพระผู้ใหญ่คอยให้การช่วยเหลือ จะถือว่าพระผู้ใหญ่มีความผิดด้วยหรือไม่ และอยากให้พระพยอม ช่วยกันปราบพระที่ปฏิบัติตัวนอกหลู่นอกทาง ซึ่งเชื่อว่ายังมีอยู่อีกมาก

“พระพยอม”  กล่าวว่า ส่วนหนึ่งคิดว่าอาจมีคนแนะนำหรือโดนกดดันมาก จึงต้องออกทางนี้ ซึ่งเป็นทางออกเฉพาะหน้า เรื่องนี้ความจริงแล้วทางเจ้าคณะจังหวัดต้องสอบต่อไป เช่น เงินวัดไปไหนบ้าง ต้องมีการตรวจสอบ Statement สมมุติว่าเงินนี้เอาไปทำอะไร เอาไปให้เขาทำไม เสียให้เป็นแสนแขนยังไม่ได้จับ

ด้าน “หมอปลา” กล่าวว่า ได้ติดต่อกับฝ่ายหญิงถึงพฤติกรรมของพระกาโตะ ซึ่งตนเองถามไปว่าทำไมจึงให้สัมภาษณ์สื่อว่าป่วยและกุเรื่องขึ้นมา โดยน้องบอกว่ามีพระผู้ใหญ่โทรมา โทรมาสั่งให้พูดแบบนี้ ถ้ามีพระผู้ใหญ่สั่ง พระรูปนั้นจะมีความผิดไหม ตนเองมองว่าตอนนี้ไม่มีใครกล้าไปสู้รบปรบมือกับพระที่มีตำแหน่งใหญ่ นอกจากหลวงพ่อเท่านั้น

“พระพยอม” กล่าวตอบว่า พระต้องพูดจริง ทำจริง ให้หนีความจริง หลบความจริง กลบความจริงเป็นพระผู้ใหญ่ไม่ได้ อาตมาไม่ได้สายบู๊สายปกครอง อยู่สายพัฒนา พระพุทธเจ้าตรัสว่าคนเริ่มโกหกได้ จะไม่ทำชั่วอย่างอื่นอีกเป็นไม่มี ที่ไปแนะให้เขาโกหก แสดงว่าต้องแอบทำอะไรไม่ดีเอาไว้อีกเยอะ ศีล 5 ข้อ มีอยู่ข้อหนึ่งคือพูดปด แล้วนี่ไปสอนให้คนอื่นพูดปด ไม่มีในพระธรรมวินัยของพระพุทธเจ้า นอกจากเป็นพวกเนื้องอกพวกสาวกเทียม ถ้าสาวกแท้จะไม่สอนให้โกหก ต้องสอนให้พูดจริง ทำจริง พระพุทธเจ้าสอนให้เรามีสัจจะ คนเราอยู่ด้วยกันด้วยความไว้เนื้อเชื่อใจ เพราะว่าเขาพูดจริง ถ้าระแวงใจก็เพราะเจอคนไม่มีสัจจะ ขนาดตำรวจสรุปคดีน้องแตงโมแล้วดูสิ ยังไม่ยอมรับ เพราะไม่ค่อยเชื่อคำพูดคำจาสมัยนี้

“หมอปลา” กล่าวต่อไปว่า อยากให้หลวงพ่อเลิกเป็นพระนักพัฒนา มาจับพระดีกว่า เพราะไม่มีพระที่จะมากล้าจับพระดัง ๆ เขาเรียกว่าพระที่มี FC เป็นดารา มีเยอะ

 “พระพยอม” กล่าวอีกว่า อาตมาทำมาตั้งแต่ยุคนิกร ยันตระ พุทโธ พอทำแล้วโยมที่วัดร้องไห้ เกิดอันตราย มีขับรถมายิงปืนรอบวัด เตรียมวางแผนจะเอารถ 10 ล้อชนอาตมาที่พิษณุโลก เผอิญสันติบาลรู้ทันเลยให้ทหารมาพาไปเซฟเฮาส์ในค่าย ขอให้คำแนะนำกับหมอปลาว่า ถ้าทำเราต้องมีสต๊าฟ อาตมาขอนิดเดียว อย่าให้มีลักษณะก้าวร้าว ขอโอกาสผมปกป้องพระพุทธศาสนาอะไรทำนองนี้ ให้คนที่คิดต่างได้เห็นใจเรา เพราะว่าเราทำด้วยจิตใจบริสุทธิ์ มีสองหน้าที่ ทะนุบำรุง ปกป้องคุ้มครอง แบบนี้เค้าเรียกปกป้องคุ้มครอง เพื่อพวกนั้นจะไม่กำเริบเสิบสาน เราทำแบบถนอมถ่อมตน ทำไมนักข่าวชอบมาถามอาตมา  เพราะว่าไปถามพระรูปอื่นท่านไม่เอาไม่กล้าพูด มีคนชอบถามว่าตอนนี้พระเป็นแบบนี้ ศาสนาจะสูญพันธุ์จากเมืองไทยไหม

ขอบอกไว้เลยว่าพุทธศาสนาสอนเรื่องทุกข์กับเรื่องดับทุกข์ ถ้าคนไทยยังมีทุกข์อยู่ ข้าวยากหมากแพงก็เป็นทุกข์ ขับรถไปถนนหนทางก็เฉี่ยวชนก็เป็นทุกข์ ถ้าตราบใดทุกอย่างมีอยู่ ทุกศาสนาก็เหมือนกับวัคซีน ถ้าไม่มีไวรัสก็ไม่มีวัคซีน จะบอกว่าเกิดแบบนี้อีกกี่ครั้งกี่หน ศาสนาคำสอนก็ยังเป็นอมตะ  ส่วนคนที่ทำเรื่องอย่างนี้พระพุทธเจ้าเปรียบเหมือนขยะในทะเลใหญ่ คลื่นจะซัดขยะพวกนี้ขึ้นฝั่ง ขึ้นไปแล้วหลายองค์แล้วเกยฝั่งติดตลิ่งไปแล้วไม่สามารถกลับมา แล้วอย่าไปคุยนะกลับมาบวชได้อีก

“หมอปลา” ถามอีกว่า ตอนนี้พระที่ดูดวงชอบปลุกเสก เยอะมาก จนชาวพุทธเข้าใจว่าพระสงฆ์ดูดวงได้ อยากฝากให้หลวงพ่อพูดถึงพระเหล่านี้หน่อยว่า ที่จริงแล้วพระสงฆ์ท่านดูดวงได้หรือไม่ได้

“พระพยอม” ตอบว่า ถ้าฉันข้าวชาวบ้านแล้วนั่งดูดวง พระพุทธเจ้าเคยตำหนิว่าไม่สมควร ไม่คุ้มค่าข้าวสุก ยังไปพ่นไฟพ่นควัน  ทำไมไม่พ่นอะไรที่ทำให้โควิดลดลง เศรษฐกิจดีขึ้น นักการเมืองไม่ทะเลาะกัน

“หมอปลา” ถามอีกว่า แล้วทำไมพระผู้ใหญ่ถึงไม่ตักเตือนพระที่ชอบดูดวงและปลุกเสก

“พระพยอม” ตอบสั้น ๆ เขาก็มีส่วน ดูได้ แต่อย่าอวดสรรพคุณว่าดูแม่น ใช้หน้าม้าไปหลอก ตอนนี้กิเลสหัวรุนแรงหัวร้อนมีเยอะ ทำไมไม่ช่วยกันทำให้หัวเย็น จำไว้เลยนะ พระต้องเหมือนหลวงพ่อพระพุทธทาส ท่านจะไม่ทำเรื่องแบบนี้เลย บางวัดหารายได้โดยการสร้างพระพิฆเนศ เวชสุวรรณ อย่างวัดอาตมาไม่มีเรื่องแบบนี้เลยยังอยู่ได้ อยู่ที่หลักธรรมคำสอนอย่างเดียว และขอฝากถึงประชาชนคำเดียว อัตหิ อัตโนนาโถ พึ่งตนเองกับพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ลึกลับ  ให้พึ่งตนเองไว้ก่อน  สิ่งศักดิ์สิทธิ์ถ้าพึ่งได้จริง  ป่านนี้รัฐบาลเอาไปไว้ในทำเนียบเต็มหมดแล้ว

ข่าวสุรสิทธิ์ สินประเสริฐ