เมื่อเดือนที่แล้วประชาชนราว 130,000 คน ได้หลั่งไหลออกไปบนถนนในย่านใจกลางธุรกิจของเมืองปาสิก ชานกรุงมะนิลา และร่วมร้องเพลง "Break Free" ของอารีอานา กรานเด เพื่อสนับสนุนรองประธานาธิบดีเลนี โรเบรโด ที่หันมาลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี และกรานเดยังเอาภาพแฟลชม็อบไปแชร์ในอินสตาแกรม พร้อมกับแคปชั่นว่า "ฉันไม่อยากเชื่อว่านี่เป็นความจริง" (I could not believe this was real)
ดูเหมือนโรเบรโด จะมีแนวทางหาเสียงที่โดนใจคนรุ่นใหม่อย่างสุด ๆ จัดรูปแบบการหาเสียงที่อึกทึก ทำเวทีปราศรัยให้เป็นเวทีคอนเสิร์ต พรั่งพร้อมด้วยระบบแสง สี เสียง มีวงป๊อปที่กำลังดังสุดขีดในประเทศ "Itchyworms" กับนักแสดงชื่อดังมาขึ้นเวที เธอยังพลิกโฉมแม้กระทั่ง "สี" โดยจากที่เคยคุ้นกับสีเหลือง, แดงและน้ำเงิน แต่โรเบรโดได้นำ "สีชมพู" เข้ามาเป็นตัวแทน ทั้งเสื้อกองเชียร์ ไข่ต้มที่แจกผู้สนับสนุนก็เปลือกสีชมพูหรือแม้กระทั่งตุ๊กตาหมี
แอนนา เปอร์เทียรา นักมานุษยวิทยาแห่ง University of Technology Sydney ซึ่งเคยศึกษาวัฒนธรรมสื่อในฟิลิปปินส์ ให้ความเห็นว่านับตั้งแต่การเลือกตั้งครั้งล่าสุดในปี 2559 การ "cross over" ระหว่างวงการบันเทิงกับการเมืองได้ก้าวไปถึงระดับใหม่แล้ว ประวัติศาสตร์โฉมใหม่แสดงให้เห็นความสัมพันธ์ที่แยกกันไม่ออก ระหว่างสถานะของผู้มีชื่อเสียงกับชัยชนะในการเลือกตั้ง วุฒิสมาชิก 5 คน จาก 24 คน เป็นคนมีชื่อเสียงนอกวงการเมือง รวมทั้งแมนนี ปาเกียว อดีตแชมป์มวยสากลหลายรุ่นหลายสถาบัน ที่ลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีด้วย และการที่คนดังหันมาเล่นการเมือง เป็นสิ่งที่บ่งชี้ว่าพวกเขาต้องการเส้นทางอาชีพที่มั่นคง หลังประสบความสำเร็จในด้านสื่อหรือในวงการบันเทิงแล้ว
มีคนดังอย่างน้อย 36 คน ที่ลงสมัครรับเลือกตั้งในประเทศที่มีประชากร 110 ล้านคนแห่งนี้ ที่ไล่เลี่ยงตั้งแต่สมาชิกสภาท้องถิ่นในเมืองต่าง ๆ ไปจนถึงประธานาธิบดีอย่างเช่น ฟรานซิสโก "อิสโก โมเรโน" โดมาโกโซ นายกเทศมนตรีกรุงมะนิลา ก็เป็นอดีตนักแสดงละครโทรทัศน์และภาพยนตร์แนวโรมานซ์ ที่ตอนนี้อยากจะเป็นประธานาธิบดีบ้างและทำได้ดีเสียด้วย เพราะมีคะแนนนิยมเป็นอันดับ 3 รองจาก เฟอร์ดินาน "บองบอง" มากอส จูเนียร์ ลูกชายของอดีตผู้นำเผด็จการ "เฟอร์ดินาน มากอส" และโรเบรโด
ส่วนปาเกียวขวัญใจคนจนน่าจะเหนื่อยหน่อย เพราะไม่ติด Top 3 ท่ามกลางกระแสข่าวที่ว่า เขาอาจ "ชกใต้เข็มขัด" ด้วยการถอนตัวจากการแข่งขัน เพื่อให้คนที่สนับสนุนเขาไปเทคะแนนเสียงให้โรเบรโด เอาชนะมาร์กอส จูเนียร์