"ทวี"ลงนราธิวาสตรวจสอบพื้นที่ 2 หมื่นไร่ถูกประกาศเป็นเขตป่าสงวน

29 เมษายน 2565 พระเทพศิลวิสุทธิ์ เจ้าคณะจังหวัดนราธิวาส ในฐานเจ้าอาวาสวัดประชุมชลธารา อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส พร้อมด้วย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคประชาชาติ และคณะ ลงพื้นที่ อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส ตรวจสอบสภาพหมู่บ้าน ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ และเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่า โดยพื้นที่ดังกล่าวในอดีตเคยเป็นที่ทำมาหากินของชาวบ้านมาก่อน แต่ปัจจุบันชาวบ้านกลับเป็นผู้บุกรุกป่า ซึ่งพื้นที่ทั้งหมดครอบคลุม 20,000 ไร่ ประมาณ 8 หมู่บ้าน ใน อ.ตากใบ สุไหงปาดี และ สุไหงโกลก จ.นราธิวาส 

โดย พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า พื้นที่ตรงนี้ก่อนจะมีการประกาศเป็นที่ป่าสงวนแห่งชาติ และเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่า เป็นที่ชาวบ้านมีหลักฐาน นส. 3 และ สค.1 ก็มีอยู่แล้ว แต่พอประกาศ เป็นที่ป่าสงวนแห่งชาติ และเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่า เป็นกฎหมายเข็มข้นมาก คือ พอประกาศแล้วชาวบ้านเป็นผู้อยู่ในพื้นที่ป่า คือ บุกรุกป่า ทั้งที่อยู่มาก่อน

นอกจากนี้ อีกส่วนหนึ่งก็คือเรื่องอาชีพที่ทำอยู่ ถ้าเป็นที่ของรัฐ การจะทำสาธารณูปโภค เช่น คลอง น้ำ ถนนหนทาง ต้องไปขออนุญาต กับเจ้าของที่ ซึ่งจริงๆคือที่ของชาวบ้าน แต่พอถูกประกาศ ก็ต้องไปขออนุญาตกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมป่าไม้ กรมอุทยาน ดังนั้น สาธารณูปโภคต่างๆก็จะทำไม่ได้ คือ ชาวนา ก็ต้องมีน้ำทำนา ชาวบ้านต้องมีน้ำ อันนี้ก็เป็นปัญหา ถือว่าเป็นปัญหาจริงๆ 

"ถ้าไม่ได้เจ้าคณะจังหวัด ซึ่งเป็นพุทธที่คนเคารพ เสียงชาวบ้านก็ไม่ค่อยดัง เป็นพระภิกษุสงฆ์ ที่ต้องพัฒนาด้วย ท่านพูด ท่านไม่มีผลตอบแทนอะไร แต่ท่านอยากให้พี่น้องที่อยู่ในพื้นที่ อยู่ด้วยความเป็นธรรม และอยู่อย่างมีความสุข เขามีสิทธิ์อยู่วันนี้ ก็ได้มาดูให้เห็นกับตา ท่านบอกว่า ครอบคลุม 20,000 ไร่ ประมาณ 8 หมู่บ้าน อันนี้ ต้องแก้เชิงระบบ และอีกส่วนหนึ่ง ข้าราชการมาที่หลัง มันถูกประกาศโดยข้าราชการชุดเก่า ถ้าแก้ส่วนหนึ่ง ต้องแก้เป็นกฎหมาย ในสามจังหวัดมีหลายพื้นที่" พ.ต.อ.ทวี กล่าว