29 เมษายน 2565 จากกรณีคนร้ายใช้อาวุธสงครามยิงถล่มรถตู้ ของ นายญาณกร โท้ประยูร นายก อบต.บางสมบูรณ์ ได้รับบาดเจ็บสาหัส ขณะที่ นายสมชาย ม่วงกาศ รองนายก อบต.บางสมบูรณ์ และ นายวัชระ นุชแดง คนขับรถ ที่นั่งมาด้วยกัน ถูกยิงเสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อวันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา (คลิกอ่านรายละเอียด) ล่าสุดได้มีการจับกุม นายนพดล อานทอง หรือสจ.เอี้ยง สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครนายก ในข้อหา“ทำลายซ่อนเร้นพยานหลักฐานให้เสียหาย”(คลิกอ่านรายละเอียด) หลังพบหลักฐานมีการนำรถยนต์ของคนร้ายที่ก่อเหตุ ไปซุกซ่อนหรือทำลาย เพื่ออำพรางหลักฐานทางคดี วานนี้(28 เม.ย.) ศาลอนุญาตให้ฝากขัง โดยไม่ให้ประกันตัว เนื่องจากคดีร้ายแรง
ด้านพ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รอง ผบก.ป. เปิดเผยกับ NATION TV ว่า คดีนี้แม้ว่าจะมีการจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญของคดีเพิ่มเติมได้อีก 1 ราย คือ นายนพดล แต่การสืบสวนสอบสวนคลี่คลายคดีดังกล่าว ก็ยังคงต้องดำเนินต่อไป เพื่อสาวไปให้ถึงตัวผู้บงการ หรือ ผู้อยู่เบื้องหลัง รวมไปถึงการเร่งติดตามตัว นายรัฐพล ตันสุวรรณรัตน์ หรือ “บิ๊ก” หรือ “กุมารขาว” ผู้ต้องหาคนสำคัญอีกรายที่ยังอยู่ระหว่างหลบหนี
“ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างการแกะรอยติดตามตัว ส่วนจะมีการออกหมายจับบุคคลใดเพิ่มเติมอีกหรือไม่นั้น ยังไม่สามารถบอกได้ ทั้งหมดขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานเนื่องจากคดีดังกล่าวเป็นคดีอุกฉกรรจ์ และ มีความละเอียดอ่อน จึงจำเป็นต้องตรวจสอบให้แน่ชัดและครอบคลุมทุกมิติ ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวมีการทำหนังสือเตรียมขออำนาจศาลออกหมายจับบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องกับคดีเพิ่มเติมอีกนั้น ยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีการดำเนินการดังกล่าว” พ.ต.อ.เอนก กล่าว
รายงานข่าวแจ้งว่า จากกระแสข่าวว่า มีนักการเมืองท้องถิ่นอีกรายหนึ่ง มีตำแหน่งเป็น สจ. อักษรย่อ “ พ ”เข้าไปมีส่วนพัวพันกับคดีดังกล่าวด้วยหรือไม่ เบื้องต้น การตรวจสอบเป็นที่แน่ชัดไปแล้ว ตั้งแต่ช่วงที่มีการตรวจยึดรถยนต์คันที่ก่อเหตุได้ภายในพื้นที่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เมื่อเดือน ก.พ. ที่ผ่านมาว่า บุคคลดังกล่าวไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีแต่อย่างใด และ ตัวบุคคลที่ถูกพาดพิงถึงนั้นไม่ได้เป็น สจ. เป็นเพียงแค่สมาชิกเทศบาล(สท.)คนหนึ่งในพื้นที่ จ.ชลบุรี (คลิกอ่านรายละเอียด)
เนื่องจากการโทรศัพท์ติดต่อหากันในช่วงเวลาดังกล่าว นายนพดล หรือ สจ.เอี้ยง ติดต่อกันเพื่อให้ช่วยขายรถให้ โดยที่ สท.คนดังกล่าว เองก็ไม่ทราบว่า เป็นรถคันที่มือปืนใช้ก่อเหตุ จึงแนะนำให้ไปติดต่อกับอู่รถในพื้นที่ อ.บางละมุง ซึ่งหลังจากมีการตรวจยึดรถคันที่ใช้ก่อนเหตุได้ที่อู่รถ อ.บางละมุง เจ้าหน้าที่ก็ได้เชิญตัว สท.พ มาสอบปากคำแล้ว จนพบว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีแต่อย่างใด
รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า สำหรับแนวทางสืบสวนคลี่คลายคดีดังกล่าว ล่าสุดได้มีการวางแนวทางการทำงานมุ่งเน้นไปที่การสืบหาพยานหลักฐานเพื่อเอาผิดตัวผู้จ้างวาน หรือ ผู้บงการ ที่อยู่เบื้องหลัง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่พอทราบข้อมูลอยู่บ้างแล้วว่าเป็นบุคคลใด เพียงแต่พยานหลักฐานที่มีอยู่ยังเชื่อมไปไม่ถึง หรือ มัดตัวเอาผิดได้ จึงต้องหาพยานหลักฐานเกี่ยวกับมูลเหตุ หรือ แรงจูงใจ มาประกอบเพิ่มเพื่อให้พยานหลักฐานที่มีอยู่มีน้ำหนักมากเพียงพอที่จะเอาผิดผู้จ้างวานได้
โดยมูลเหตุแรงจูงใจในคดีนี้ จากพยานหลักฐานที่มีอยู่เชื่อว่า น่าจะมาจากเรื่องความขัดแย้ง กับบุคคลกลุ่มหนึ่ง ที่ได้รับผลกระทบจากการเปิดโปงทุจริตแพริมน้ำ เพราะก่อนเกิดเหตุผู้เสียหายเตรียมจะเดินทางไปยื่นเรื่องต่อ ปปช. เพื่อขอให้ตรวจสอบโครงการแพริมน้ำ ในวันที่ 17 ก.พ. แต่มาถูกดักสังหารเสียก่อน
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ส่วนที่ นายญาณกร โท้ประยูร นายก อบต.สมบูรณ์ ได้เข้าร้องทุกข์กับ ทาง บก.ปปป. เพื่อขอให้ดำเนินการตรวจสอบการทุจริตโครงการแพริมน้ำไปใช้ประโยชน์ส่วนตัว นั้น เบื้องต้นได้มีการตรวจสอบพบหลักฐานหลายอย่างที่ส่อเค้าว่ามีการทุจริตจริง ซึ่งมีการรวบรวมพยานหลักฐานเบื้องต้น ส่งเรื่องต่อให้กับทาง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ดำเนินการตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทุจริตพ.ศ.2561 มาตรา 61 ไปแล้วเมื่อวันที่ 11 มี.ค. ที่ผ่านมา และ ทางตำรวจ บก.ปปป. เองก็ได้ทำเรื่องขอรับสำนวนกลับคืนมาดำเนินการต่อ เนื่องจากเป็นคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชน
โดยล่าสุดตอนนี้สำนวนดังกล่าว อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของคณะอนุกรรมการกลั่นกรองเรื่องกล่าวหาร้องเรียนป.ป.ช.ภาค 2 ซึ่งหากมีการส่งสำนวนกลับมา ทางตำรวจ บก.ปปป. ก็จะสามารถเดินหน้าดำเนินการต่อได้ในทันที