เหตุการณ์ "ปริญญ์ พานิชภักดิ์" อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ตกเป็นผู้ถูกกล่าวหาในคดีคุกคามทางเพศ โดยมีผู้เสียหายร้องเรียนถึง 15 คน ได้ลุกลามสั่นสะเทือนไปถึง"พรรคประชาธิปัตย์" ในการถูกสังคมทวงถามหามาตรฐานการคัดเลือกบุคคลากรเข้ามาเป็นสมาชิกพรรคปชป.
มิวายประเด็นร้อนดังกล่าว กลับมีพัฒนาการปลุกเรื่องราวความขัดแย้งภายในพรรคประชาธิปัตย์ให้คุกรุ่นขึ้นมาอีกครั้ง มีความพยายามจากคลื่นใต้น้ำโถมเข้าใส่พรรค ด้วยการเปิดประเด็นอื่นๆเขย่ากรรมการบริหารพรรคปชป.ให้สั่นคลอน หวังผลให้เกิดการเปลี่ยนหัวหน้าพรรคปชป.
ท่ามกลางความอลหม่าน นอกจาก ดร. กนก วงษ์ตระหง่าน และอรอนงค์ กาญจนชูศักดิ์ ลาออกจากกก.บห. ปรากฎอีกหนึ่งสตรี "มัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข" ที่ปรึกษารมว.พาณิชย์ ตัดสินใจลาออกจากกรรมการบริหารพรรคปชป. เช่นกัน
.....ด้วยเหตุผลที่หลายคนสงสัย เพราะอะไร....
"มัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข" ที่ปรึกษารมว.พาณิชย์ (นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ ) เปิดเผย "เนชั่นทีวีออนไลน์" ถึงเหตุผลที่ลาออกจากกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ว่า เป็นไปตามหนังสือที่ยื่นลาออก เรื่องของการเมืองให้จบที่เรื่องการเมือง โดยไม่ขอให้เหตุผลที่ลาออก ไม่มีเหตุผลลาออก ลาออกก็คือลาออก ต้องการยุติบทบาทกรรมการบริหารพรรคก็เท่านั้น ส่วนกลุ่มกรรมการบริหารพรรคที่เป็นหญิงที่ก่อนหน้าจะลาออกแต่สุดท้ายก็ไม่ออก ไม่ขอพูดถึงคนอื่น
เมื่อถามย้ำถึงเบื้องลึกการลาออก "มัลลิกา" กล่าวว่า ต้องการที่จะโฟกัสเรื่องงานในตำแหน่งที่ปรึกษารมว.พาณิชย์ โดยต้องการฉายภาพการทำงานในภาพกว้างของประเทศชาติ ของท่านจุรินทร์ ออกมาให้ประชาชนรับทราบมากกว่าการโฟกัสเรื่องพรรค
"เรื่องของประเทศใหญ่กว่าพรรค เรื่องของพรรคใหญ่กว่าพวก ดังนั้นดิฉัน ต้องการจะฉายภาพภารกิจนายจุรินทร์ในการทำงานเพื่อประเทศชาติ เป็นผู้นำในการแก้ไขปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจ สงครามการค้า ภารกิจต่องประชาชนสำคัญที่สุด การผลักดันนโยบายให้สำเร็จเราทำมาเกือบ 3 ปี เพราะฉะนั้นเราจะแพ้ต่อเรื่องพวกนี้ไม่ได้"
ส่วนเรื่องแชทไลน์หลุด จนนำไปสู่การตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยมี นราพัฒน์ แก้วทอง เป็นประธานสอบ ฯ "มัลลิกา" บอกว่า ไม่ต้องเคลียร์ การเมืองต้องแก้ด้วยการเมือง การลาออกจากตำแหน่งทางการเมืองภายในพรรค เท่ากับแก้ปัญหาการเมือง เรื่องของพรรคมีคนแก้เยอะแล้วให้เขาแก้กันไป
"ข้อมูลที่สื่อมวลชนเอาไปนำเสนอเป็นข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์ ไม่เป็นความจริงทั้งหมด ดังนั้นเป็นเรื่องคณะกรรมการต้องไปสอบหาข้อเท็จจริง ทั้งนี้ย้ำว่าเรื่องในที่ประชุมกรรมการบริหารพรรค กับไลน์ กก.บห. เป็นความลับของกรรมการบริหาร เพราะฉะนั้นมีกรรมการที่ตั้งขึ้นมาเพื่อสอบ ไม่ว่าจะสอบอะไรก็ตาม ดิฉันยินดีให้ความร่วมมือ"
เมื่อถามว่าประชาธิปัตย์จะเดินอย่างไรต่อ "มัลลิกา" กล่าวว่า เรื่องสถาบันการเมืองให้เขาไปแก้ปัญหากัน เราไม่ได้มีหน้าที่เป็นกรรมการบริหารพรรค ปล่อยให้เขาแก้ปัญหา ประชาธิปัตย์ผ่านมาหลายยุค ในทุกยุคมีคนเข้า –ออก มองว่าเป็นเรื่องปกติ และจะจบอย่างไรปล่อยให้เป็นเรื่องการเมือง
"มัลลิกา" ซึ่งกลายเป็นอดีตกรรมการบริหารพรรคปชป.ยังได้สะท้อนจุดเด่นและจุดอ่อนของพรรคประชาธิปัตย์ คือ มีเสรีประชาธิไตยค่อนข้างสูง สูงจนเกิดปัญหาต่างๆอย่างที่เห็น ซึ่งอาจจะเป็นจุดด้อย เพราะมีความเห็นที่หลากหลาย แต่เชื่อว่าประชาธิปัตย์เอาอยู่ในการที่จะขับเคลื่อนไปข้างหน้า และแม้จะเป็นพรรคที่เก่าแก่ยาวนาน แต่ประชาธิปัตย์เป็นที่พึ่งของประชาชน มาทุกยุคทุกสมัย วันนี้สถานการณ์ต่างๆเปลี่ยนไป ประชาธิปัตย์ก็ต้องปรับ ในการดูแล GEN ต่างๆ
ส่วนจุดอ่อนคือ เป็นเรื่องยากที่จะทำความเข้าใจและหล่อหลอมคนทุก GEN เข้าด้วยกัน เป็นยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างเร็ว ดังนั้นเป็นเรื่องที่ประชาธิปัตย์จะต้องปรับตัว
สำหรับอนาคตทางการเมืองของ"มัลลิกา" นั้น เธอ บอกว่า เป็นเรื่องที่ต้องคิดเป็นสเต็ปต่อไป ว่าจะวางตัวเองไปอยู่จุดไหน ถ้าไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นก็ยังอยากจะทำอย่างอื่น เป็นการบ้านที่ต้องคิด ตอนนี้ขอทำหน้าที่ตรงหน้าให้เสร็จสิ้นก่อน ถ้าเป็นประโยชน์เราก็จะยังคงทำหน้าที่นั้นต่อไป
"เป้าหมายของนักการเมืองทุกคนคือการทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติ และให้ประโยชน์กับประชาชน การผลักดันนโยบายสร้างประโยชน์ให้กับประชาชน" "มัลลิกา" กล่าว
มรสุมทางการเมืองที่กำลังโหมกระหน่ำพรรคประชาธิปัตย์ขณะนี้ "มัลลิกา" ทิ้งท้ายด้วยประโยคสำคัญอย่างน่าคิดว่า "อย่า ยอม แพ้ "
"ไม่ว่าเป็นเรื่องของอะไร ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม หรือแม้แต่ตัวเราก็ตาม อย่ายอมแพ้ในเรื่องนี้ การไม่ยอมแพ้เท่านั้นถึงสามารถยืนหยัดและสามารถใช้ประโยชน์จากเราได้"
" อย่า ยอม แพ้ " มัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารมว.พาณิชย์ ย้ำสามคำนี้ด้วยน้ำเสียงอันหนักแน่น
"ชมคลิป" เอ็กซ์คลูซีฟทอล์ก เบื้องหลังการลาออกกก.บห.>>>