เมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้ (20 เม.ย.) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม แถลงข่าวเรื่องหลักฐานคดีการเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำของ “แตงโม นิดา” นักแสดงสาวชื่อดัง ที่พลัดตกเรือจมน้ำเสียชีวิตตั้งแต่วันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา
โดย "อัจฉริยะ" จับพิรุธกรณีเจอเส้นผมของ “แตงโม” จำนวน 3 เส้นบริเวณท้ายเรือว่า เจ้าหน้าที่ชุดพิสูจนหลักฐานต้องใช้เวลาถึง 4 วัน กว่าจะเจอเส้นผมบนเรือสปีดโบ๊ทของกลาง โดยเริ่มเข้าตรวจเก็บหลักฐานครั้งที่ 1 ที่อู่จอดเรือ NBC BOAT CLUB เมื่อวันที่ 26 ก.พ.เวลา 11.00 น.
ก่อนเข้าเก็บหลักฐานครั้งที่ 2 และตรวจหาร่องรอยเลือด จากการเรืองแสงของลูมินอล เมื่อวันที่ 27 ก.พ.เวลา 18.00 น.จากนั้นเก็บหลักฐานครั้งที่ 3 เมื่อวันที่ 28 ก.พ.เวลา 13.00 น.ซึ่งการตรวจครั้งที่ 1-3 ไม่เจอเส้นผม
จนการเข้าตรวจครั้งที่ 4 เมื่อวันที่ 1 มี.ค.เวลา 16.30 น.อยู่ดีๆ ตำรวจชุดสืบสวนของ บช.ภ.1 และชุดพิสูจน์หลักฐาน กลับเจอเส้นผม ทั้งที่ 3 วันก่อนหน้านี้ มีการตรวจละเอียดแต่ไม่เจอ โดยเส้นที่ 1 ติดอยู่ตรงซอกใต้เบาะท้ายเรือฝั่งซ้าย และอีกเส้น เจอบริเวณใต้พื้นเรือ ด้านหลังขวา ซึ่งจุดที่เจอเส้นที่ 2 หากอยู่ในน้ำ จะจมอยู่ใต้น้ำ ฉะนั้นเป็นเรื่องแปลกมาก ที่ยังมีเส้นผมติดอยู่ แม้จะผ่านมานานหลายวัน และเจ้าหน้าที่กลับไม่เห็นในการเก็บหลักฐานช่วง 3 วันแรก
นอกจากนี้ยังพบเส้นผม ซึ่งเป็นเส้นที่ 3 ที่ติดอยู่ใต้พื้นเรือด้านหลังขวา หากเรืออยู่ในแม่น้ำ เส้นผมดังกล่าวต้องจมอยู่ในน้ำ เช่นเดียวกับเส้นที่ 2
“อยากถามพี่น้องที่เป็นผู้หญิง หากท่านมีเส้นผมร่วง มันควรจะอยู่บนเรือใช่ไหมครับ แต่ทำไมกลับมาอยู่ท้ายเรือ ผมอยากถามเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ทำไมถึงไม่เจอเส้นผม ตลอดการเก็บหลักฐาน 3 ครั้งแรก โดยเส้นผม 3 เส้นที่เจอ ไม่มีของผู้ต้องหาบนเรือ แต่เป็นของแตงโมคนเดียว ตรงนี้เป็นหลักฐานที่ทำให้สอดรับกับคำให้การของแซน (วิศาพัช มโนมัยรัตน์) ว่าจับขาท้ายเรือ แล้วพลัดตกน้ำไป ตรงนี้แสดงให้เห็นว่า มีขบวนการสร้างหลักฐานอันเป็นเท็จ ในการสร้างเส้นผม ซึ่งเป็นกลุ่มคนมีสี และพยานที่สอบปากคำหลายปาก เป็นพยานปั้น ไม่ใช่พยานบริสุทธิ์ รวมถึงมีการแก้เวลาในจีพีเอส เพราะช่วงเกิดเหตุเรือไม่ได้กระชาก”
อย่างไรก็ตาม “อัจฉริยะ” ยังตั้งข้อสังเกตอีกว่า คดีนี้มีกรณี “ข้อสอบรั่ว” หรือหลักฐานในคดีบางส่วนหลุดออกมา พร้อมพาดพิงไปถึง “หนุ่ม กรรชัย” พิธีกรชื่อดังว่า “รู้ข้อสอบได้อย่างไร ถ้าไม่มีคนขายข้อสอบให้” ส่วนบาดแผลที่ขาขวาของ “แตงโม” คาดว่า เกิดจากเศษแก้ว หรือของมีคม โดยการบาดแค่ครั้งเดียว เพราะว่าไม่มีรอยช้ำ
จากนั้น “อัจฉริยะ” พร้อมนายวัชรไกรศร เกตุจรัส ผู้เชี่ยวชาญด้านแสงและเงา เปิดหลักฐานกล้องวงจรปิด ซึ่งเป็นมุมกล้องของการไฟฟ้าฝ่ายผลิต หรือ กฟผ.ที่มีการวิเคราะห์จาก “แสงและเงา” ที่เกิดขึ้นระหว่างเรือแล่นผ่าน ซึ่งเป็นภาพเดียวกับของตำรวจ
โดยนายวัชรไกรศร วิเคราะห์ว่า เวลา 22.34 น.ช่วงวินาทีที่ 10 คืนวันเกิดเหตุ จะเห็นลักษณะคล้ายเงามาอยู่ที่ท้ายเรือ ก่อนที่เงานั้นจะหายไป ซึ่งต้องมีการดูอย่างละเอียดอีกครั้งว่า เงานั้นตกน้ำหรือไม่ แต่จากการสังเกตพบว่า ลักษณะการหายของเงา หายไปจากทางด้านบน จึงเชื่อว่า “แตงโม” มีการยืนขึ้นแล้วกลับเข้าในเรือ ไม่หายหรือตกไปทางด้านซ้ายของเรือ ตามคำให้การของ “แซน” อาจเป็นคำให้การเท็จ
ขณะที่ “อัจฉริยะ” อธิบายเพิ่มเติมว่า เงาที่เห็นน่าจะเป็น “แตงโม” นั่งยองๆ ที่ท้ายเรือ และลุกขึ้นหันหน้าไปทางหัวเรือ โดยสังเกตจากแสงและเงา
“หลักฐานเหล่านี้ เป็นแค่หลักฐานบางส่วน ยังไม่สมบูรณ์ ซึ่งผมจะแถลงข่าว และเปิดหลักฐานฉบับสมบูรณ์ในวันที่ 26 เม.ย.นี้ ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่ตำรวจแถลงปิดคดี แต่จะแถลงก่อนหรือหลัง จะแจ้งให้ทราบ โดยวันนั้น นอนจากภาพวงจรปิดที่แสดงให้เห็นว่า ใครกอดกันอยู่ที่หัวเรือ และแตงโมไม่เคยตกจากท้ายเรือ แต่ตกจากหัวเรือ ยังมีหลักฐานว่าแซนอยู่แค่ท้ายเรือเพียง 20 นาที ก่อนมานั่งท้ายคนขับ โดยมีหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ส่วนตัวคาดว่า คดีนี้อาจเป็นฆาตกรรมจากความเมา และอารมณ์ทางเพศ ไม่ใช่ตกน้ำตายเอง และจะดำเนินคดีเอาผิดชุดคลี่คลายคดีทั้งคณะในวันพรุ่งนี้ (21 เม.ย.)”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงท้ายการแถลงข่าว “อัจฉริยะ” ยังเปิดหลักฐานที่ระบุว่า เป็นผลตรวจดีเอ็นเอ หรือจุดแสดงตำแหน่งว่าใครนั่งตรงไหน โดยพบว่า “แตงโม” ถ้าไม่นับรวมเส้นผม 3 เส้นที่อยู่ท้ายเรือแล้ว จะพบว่าตัวเธออยู่บริเวณหัวเรือ ที่มีหลักฐานดีเอ็นเอจากแก้ว