โรคหัวใจกำเริบของ รมต.กลาโหมรัสเซีย ผิดปกติ

การหายหน้าไปของนายเซอร์เก ชอยกู รัฐมนตรีกลาโหมวัย 66 ปี ทั้งที่มีบทบาทสำคัญในช่วงที่รัสเซียกำลังทำสงครามอย่างเข้มข้นในยูเครน โดยข้ออ้างว่าโรคหัวใจกำเริบ ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าใช่เรื่องปกติ และยิ่งตอกย้ำมากขึ้นเมื่อนายเลโอนิด เนฟลิน นักธุรกิจชาวรัสเซียเชื้อสายอิสราเอลวัย 62 ปี ที่ลี้ภัยอยู่ในต่างประเทศอ้างว่า อาการโรคหัวใจกำเริบอย่างรุนแรงของนายชอยกูไม่ใช่สาเหตุโดยธรรมชาติ ซึ่งถ้าเป็นความจริงก็จะเป็นการยืนยันข้อสงสัยเรื่องการแตกแยกร้าวลึก ระหว่างประธาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน กับที่ปรึกษาใกล้ชิด สมาชิกระดับสูงสุดในกองทัพและหน่วยงานด้านความมั่นคง 

นายชอยกูได้ชื่อว่าเป็นมือขวาของปูตินและเป็นผู้กุมบังเหียนกองทัพมานานนับสิบปี เคยไปพักผ่อนวันหยุดด้วยกัน และเชื่อว่าจะมีความสนิทสนมแบบเพื่อนสนิทในเวลาที่ไม่ได้สวมหัวโขน แต่นายชอยกูได้หายหน้าไปนานหลายสัปดาห์ ที่มีข่าวบางกระแสระบุว่าเขาอยู่ในห้องไอซียู แต่มีคลิปวิดีโอสุดท้ายแสดงให้เห็นเขาประชุมทางไกลร่วมกับปูตินและรัฐมนตรีคนอื่น ๆ เกี่ยวกับการพัฒนาอาร์คติกแต่ไม่ได้พูดอะไร ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าทำเนียบเครมลินอาจใช้ภาพเก่า และยิ่งตอกย้ำว่าน่าจะเกิดความบาดหมางระหว่างเขากับปูติน จากความไม่คืบหน้าในการบุกยูเครนเมื่อเดือนมีนาคม และเมื่อปูตินรู้ว่าสูญเสียทหารไปเป็นจำนวนมาก

นายเนฟลินเคยได้ชื่อว่าเป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดของรัสเซีย เป็นเจ้าของสื่อและผู้บริหารบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ยูคอส แต่เป็นหนึ่งในนักธุรกิจที่หลบหนีไปต่างประเทศเมื่อปี 2546 ก่อนที่ยูคอสจะถูกเครมลินยึด ซึ่งเขาบอกว่าอาการโรคหัวใจของนายชอยกูไม่ใช่เรื่องปกติ เป็นแค่ข่าวลือ แต่เขาน่าจะถูก "สังเก็บ" จากปูติน เพราะออกจากเกมไปแล้ว ถ้ารอดมาได้ก็อาจจะทุพพลภาพ เขาบอกด้วยว่ายังมีนายพลอีก 20 นาย ที่ถูกจับ และถูกตั้งข้อหายักยอกเงิน 10,000 ล้านดอลลาร์ ที่ให้นำไปใช้ในแผนสงครามที่ยูเครน มีการจับกุมเกิดขึ้นในทุกกองบัญชาการ ที่เชื่อว่ามีการไซฟ่อนงบประมาณในการทำสงครามมาตั้งแต่ปี 2557 ขณะที่นายจอห์น เคอร์บี โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ระบุว่า สรุปได้ว่ากระทรวงกลาโหมรัสเซียไม่เคยแจ้งข้อมูลทั้งหมดต่อปูตินอย่างครบถ้วน และความจริงก็ค่อย ๆ ปรากฎเมื่อเดือนที่แล้ว ที่ทำให้ปูตินโกรธจัด