ถอดรหัสคำแถลง"ปริญญ์"หวังผล 3 ประเด็น 

หากถอดรหัสคำแถลงของ "ปริญญ์ พานิชภักดิ์" ที่พรรคประชาธิปัตย์ วานนี้ ทำให้มองได้ 3 มิติ คือ 

1.ลาออกจากทุกตำแหน่ง เป้าหมายเพื่อดึงตัวเองออกจากสปอตไลท์ ให้ข่าวฉาวจบเร็วที่สุด เพราะการลาออกจากตำแหน่งในพรรค จะลดแรงกดดันลงได้ระดับหนึ่ง

2.ยืนยันว่าตัวเองไม่ผิด ไม่ได้กระทำแบบที่ถูกกล่าวหา แปลว่าไม่ยอมรับ และพร้อมสู้คดี 

3.มีการเปิดข้อมูลบางอย่างที่จะนำไปใช้ต่อสู้คดี เช่น สถานที่ที่อ้างว่าเกิดเหตุไม่ใช่ที่รโหฐาน แต่เป็นร้านอาหารที่มีคนพลุกพล่าน เวลานัดหมายกันเป็นเวลายังไม่มืดค่ำ ส่งสัญญาณว่าจะสู้คดีอย่างถึงที่สุดในกระบวนการยุติธรรม และน่าจะพลิกข้อกล่าวหาได้ 

จากการตรวจสอบข้อกฎหมายในประมวลกฎหมายอาญา พบว่า หากไม่ใช่การกระทำอนาจารต่อหน้าธารกำนัล หรือไม่มีหลักฐานเอาผิดชัดเจน ประกอบกับเป็นการกระทำกับหญิงสาวอายุเกินกว่า 15 ปี ไม่มีการทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ ก็จะเป็น "ความผิดที่ยอมความได้" ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 281 ซึ่งสามารถเป็นข้อต่อรอง ไกล่เกลี่ยบนชั้นศาล หรือชั้นพนักงานสอบสวนได้เช่นกัน 

นี่คือการถอดรหัสคำแถลงของปริญญ์ ที่พอจะทำให้เห็นแนวทางที่จะดำเนินการต่อไป ซึ่งทั้งหมดขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงและหลักฐานที่ฝ่ายผู้เสียหายจะนำไปมอบให้กับตำรวจ ประกอบกับหลักฐานที่เจ้าพนักงานตำรวจ จะไปเสาะหามาเพิ่มเติม 

ส่วนกรณีที่มีหญิงสาวออกมาโพสต์ข้อมูลและเปิดตัวว่าเคยถูกล่วงละเมิดคล้ายๆ กันนับสิบรายนั้น ในทางสังคมถือว่ากระทบกับผู้ถูกกล่าวหา แต่ในทางคดีต้องรอดูว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนานหรือยัง เพราะอาจขาดอายุความร้องทุกข์ไปแล้วก็เป็นได้

แม้ประมวลกฎหมายอาญาจะมีการแก้ไขในปี 2562 ให้เป็นความผิดอาญาแผ่นดิน ยอมความไม่ได้ก็ตาม แต่หากเหตุการณ์เกิดขึ้นก่อนหน้านั้น คือ ก่อนที่กฎหมายจะแก้ไข ก็อาจไม่บังคับย้อนหลังครอบคลุมไปถึง และความผิดฐานกระทำอนาจารที่ไม่ได้กระทำต่อหน้าธารกำนัล ยังเป็นความผิดที่ยอมความได้