คิม จองอึน ตำหนิโรงแรมก่อนสั่งระเบิดทิ้ง

เกาหลีใต้ได้ใช้ "ฮอตไลน์ระหว่างรัฐบาล" เรียกร้องขอเหตุผล การสะบั้นความสัมพันธ์ทางธุรกิจ จากนายคิม จอง-อึน ผู้นำเกาหลีเหนือ ที่ปกครองเกาหลีเหนือมาครบ 10 ปี หลังจากรีสอร์ตท่องเที่ยวบนภูเขาคุมกัง (Diamond Mountains) ความสูง 5,374 ฟุต ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของสันติภาพระหว่างเพื่อนบ้าน ถูกระเบิดทำลายไปส่วนหนึ่งเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ The Times รายงานว่าเกาหลีเหนือยังไม่ได้ตอบคำถามของเกาหลีใต้ แต่มีสัญญาณที่บ่งชี้ว่านายคิมเลือกเส้นทางที่มุ่งไปสู่การเผชิญหน้า 

นายชา ด็อก-ชอล โฆษกกระทรวงรวมชาติของเกาหลีใต้ แถลงว่าการทำลายโรงแรมเป็นการกระทำแต่ฝ่ายเดียว ที่ขัดต่อวัตถุประสงค์ของความพยายามร่วมกันระหว่างเกาหลี บนพื้นฐานของความเคารพ และการปรึกษาหารือซึ่งกันและกันอย่างชัดเจน ภาพถ่ายดาวเทียมแสดงให้เห็น "โรงแรมแฮคุมกัง" ที่เป็นส่วนหนึ่งของรีสอร์ตท่องเที่ยวมูลค่า 75 ล้านดอลลาร์ (2,500 ล้านบาท) เสียหายเป็นบางส่วน โดยโรงแรมแห่งนี้ซึ่งลงทุนสร้างและจัดการโดยฝั่งเกาหลีใต้ ตั้งอยู่ห่างจากพรมแดนเกาหลีใต้เพียง 50 กิโลเมตร โดยเป็นส่วนหนึ่งของ "Sunshine Policy"

ประธานาธิบดีคิม แด-จุง ของเกาหลีใต้ และเจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ คือผู้ริเริ่มใช้ "Sunshine Policy" เมื่อปี 2541 เพื่อลดทัศนคติของเกาหลีเหนือต่อเกาหลีใต้ให้อ่อนโยนลง  ผ่านความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจและสนับสนุนการติดต่อระหว่างกัน ซึ่งในตอนนั้นมีนักท่องเที่ยวจากเกาหลีใต้หลั่งไหลไปท่องเที่ยวหลายหมื่นคน โดยพวกเขาได้รับอนุญาตให้ใช้จ่ายเงินสกุลต่างประเทศได้ แต่ห้ามติดต่อกับชาวเกาหลีเหนือ ต่อมาในเดือนกรกฎาคม ปี 2561 ความสัมพันธ์ระหว่างสองเกาหลีได้สะบั้นลง หลังนักท่องเที่ยวเกาหลีใต้ถูกทหารเกาหลีเหนือยิงเสียชีวิต ขณะเดินเล่นที่ชายหาดของรีสอร์ต โดยเกาหลีเหนืออ้างว่าเห็นผู้เคราะห์ร้ายเดินบนเนินทรายที่ได้รับการพิจารณาว่าเป็นพื้นที่ทหาร และเป็นความรับผิดชอบนักท่องเที่ยวกับเกาหลีใต้เอง

ยังไม่รวมเรื่องที่โครงการนำร่องทางธุรกิจ "Sunshine Project" ที่นิคมอุตสาหกรรมแคซองของเกาหลีเหนือ เมื่อโรงงานของเกาหลีใต้ที่มีแรงงานเป็นชาวเกาหลีเหนือปิดตัวลงเมื่อปี 2559 ส่วนนายคิมได้ไปเยือนภูเขาลูกนี้เมื่อเดือนตุลาคม ปี 2562 ก่อนส่งรถบุลโดเซอร์ไปทำลายโรงงานทิ้ง ส่วนเหตุผลการทำลายโรงแรมน่าจะเป็นเพราะนายคิมตำหนิว่า "ล้าหลังอย่างมาก" ไม่ต่างจากเต็นท์ชั่วคราวในพื้นที่ประสบภัยพิบัติ สถาปัตยกรรมก็สุดจะล้าหลังมีความ "จับฉ่าย" ไร้คาแรกเตอร์ของ "ความเป็นชาติ" โดยสิ้นเชิง และการที่ภูเขาคุมกังถูกมองว่าเป็นสัญลักษณ์ความสัมพันธ์ระหว่างสองเกาหลี เป็นเรื่องที่ผิดพลาดมหันต์