
วันนี้ (10 เม.ย.) ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา แยกคอกวัว มีการจัดกิจกรรมงานรำลึกเหตุการณ์ 10 เมษาฯ 53 “ยุติธรรมไม่มี 12 ปีเราไม่ลืม” โดยมีแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง นำโดยนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ , นพ.เหวง โตจิราการ , นางธิดา ถาวรเศรษฐ เข้าร่วมงาน พร้อมตัวแทนจากพรรคการเมือง เช่น นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย , นายจุพันธ์ อมรภิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ , นายวรชัย เหมะ อดีต ส.ส. สมุทรปราการ
กิจกรรมเมื่อเวลา 13.00 น.มีการถวายสังฆทาน จากนั้นกลุ่มมวลชนพรรคการเมือง วางพวงหรีดและดอกไม้ และกล่าวรำลึกเหตุการณ์ โดยนายณัฐวุฒิ ระบุว่า การจัดกิจกรรมในวันนี้ เพื่อลำรึกความสูญเสียของประชาชน จากการล้อมปราบของเจ้าหน้าที่ ซึ่งมีกิจกรรมกันทุกปี เพื่อประกาศต่อสังคมว่า โศกนาฎกรรมดังกล่าว ยังไม่มีการชำระความจริง
“เราไม่มีเจตนามาตอกลิ่มความขัดแย้ง หรือมีเงื่อนไข หรือเติมเงื่อนไขความแตกแยกให้ลุกลามบานปลาย เราต้องการรักษาแผลเก่า ไม่ให้เป็นแผลอักเสบเรื้อรังของสังคม โดยความขัดแย้งของสังคมไทยมีมากขึ้นทุกวัน เราไม่สามารถคาดเดาได้ว่าในอนาคต อาจจะมีการเคลื่อนไหวต่อสู้ของประชาชนที่มีขนาดใหญ่ขึ้นอีก และอาจเกิดเหตุการณ์แบบวันที่ 10 เม.ย.53 ได้อีกครั้ง”
ผู้สื่อข่าวถามว่า “จะดำเนินการเรียกร้องความเป็นธรรมอย่างไร” นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า เราพยายามผลักดันต่อเนื่อง และทุกคดีที่เกี่ยวกับคนตาย เหมือนพายเรือในอ่าง ศาลอาญาบอกว่าไม่มีอำนาจให้ไปที่ศาลฎีกา แผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ต้องไปตั้งต้นเรื่องที่ ป.ป.ช.แต่กลับยกคำร้อง อ้างว่าผู้มีอำนาจในรัฐบาลขณะนั้น ทำตามอำนาจหน้าที่ ไม่มีความผิด
เมื่อไปฟ้องศาลทหาร ก็บอกว่าไม่ระบุตัวผู้ทำผิด ทำให้เรื่องวนอยู่กับที่ ดังนั้นอะไรที่เป็นช่องทางให้คดีเดินหน้าได้ จะทำต่อโดยไม่สิ้นความหวัง เพราะหลายประเทศไม่ว่าคดีจะผ่านไป 10-20 ปี เมื่ออำนาจเปลี่ยน การชำระคดีความให้เกิดความยุติธรรมก็จะมาถึง
ถามว่า “กังวลหรือไม่ว่าคดีความหมดอายุ” นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า คดีอาญาทั่วไป จะหมดอายุความใน 20 ปี จึงเหลือเวลา 8 ปี และยังเชื่อว่าสาเหตุที่ผู้มีอำนาจชุดนี้ดึงดันจะอยู่ในอำนาจ เพราะอายุความในคดีนี้ด้วย เพราะนายทหาร 3 ป.คือบุคคลสำคัญที่ดูแลกองทัพเมื่อ 12 ปีที่แล้ว