svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

สรุปวิสัยทัศน์ 6 แคนดิเดต ประชันชิงตำแหน่งเลือกตั้ง"ผู้ว่าฯกทม65"

09 เมษายน 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

สรุปวิสัยทัศน์ 6 แคนดิเดต “วิโรจน์ , สกลธี, สุชัชวีร์ ,อัศวิน,ชัชชาติ ,ศิธา” โชว์กึ๋นประชันนโยบายศึกชิงตำแหน่ง"เลือกตั้งผู้ว่าฯกทม65"

 

"เนชั่นกรุ๊ป" เปิดเวทีโชว์นโยบาย ผู้สมัคร "เลือกตั้งผู้ว่าฯกทม65" โดยเชิญ 6 ผู้สมัครลง"เลือกตั้งผู้ว่าฯกทม65 มาร่วมประชันนโยบาย  ได้แก่ วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัครหมายเลข 1 สังกัดพรรคก้าวไกล ,สกลธี ภัททิยกุล ผู้สมัครหมายเลข 3 ผู้สมัครอิสระ ,สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครหมายเลข 4 สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ ,พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้สมัครหมายเลข 6 ผู้สมัครอิสระ ,ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครหมายเลข 8 ผู้สมัครอิสระ และ น.ต.ศิธา ทิวารี ผู้สมัครหมายเลข 11 สังกัดพรรคไทยสร้างไทย

 

แต่ละคนมีวิสัยทัศน์ดังนี้

 

วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัครหมายเลข 1 สังกัดพรรคก้าวไกล แสดงวิสัยทัศน์ช่วงหนึ่งว่า เมืองที่เราอยากเห็นไม่ได้ยาก แต่เป็นเมืองที่เราหวังว่าหลังจากที่ตนเป็นผู้ว่าฯ ปัญหาของกทม. จะต้องไม่วนลูปซ้ำเดิม กทม.ต้องเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล ต้องประเชิญกับความท้าทายใหม่ใหม่ ไม่ใช่ตกอยู่ในในกงกรรมกงเกวียนอีกต่อไป และถ้าผู้ว่าฯ ชื่อวิโรจน์ จะเติมสวัสดิการให้ประชาชน จะไม่มีใครหน้าไหนกล้าไปปรับลด มีแต่เพิ่มเพื่อผลักดันให้เป็นรัฐสวัสดิการ ที่ทุกคนมีความฝันและความมุ่งมั่น นอกจากนี้ยังสามารถคืนกติกาให้ประชาชนไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบ ไม่ถูกครอบงำจากนายทุนทหารคสช. เครือข่ายสุรา เครือข่ายพลังงาน เครือข่ายห้างสรรพสินค้า เราจะไม่สยบยอม และแก้กติกาให้คนกทม. ไม่ถูกทำนาบนหลังคน ซึ่งจะเป็นการเปลี่ยนแปลงที่เปลี่ยนไปตลอดกาล ถ้าประชาชนอยากเห็นกทม. เปลี่ยนไปตลอดกาล ไม่ใช่แค่การบริหาร แต่ต้องมีเจตจำนงค์ใหม่ ให้เลือกวิโรจน์ เพื่อให้เมืองๆ นี้เห็นค่าของเราเท่ากัน”

 

สรุปวิสัยทัศน์ 6 แคนดิเดต ประชันชิงตำแหน่งเลือกตั้ง"ผู้ว่าฯกทม65"

สกลธี ภัททิยกุล ผู้สมัครหมายเลข 3 ผู้สมัครอิสระ แสดงวิสัยทัศน์ช่วงหนึ่งว่า มีโอกาสเข้าไปบริหารงานกรุงเทพมหานคร 4 ปี เห็นหลายอย่าง เห็นถึงข้อจำกัดและปัญหา รวมไปถึงงานที่จะทำงานต่อในอนาคต

 

ทั้งนี้จะต้องดูแลคน 3 ชั่วอายุ ตั้งแต่วัยเด็ก วัยทำงาน และสูงวัย อีกหนึ่งสิ่งสำคัญคือระบบการศึกษา จะต้องพยายามทำให้ช่องว่างของโรงเรียนแคบที่สุด โดยการเรียน 2 ปีที่ผ่านมาในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด -19 ทำให้เด็กในกรุงเทพฯถูกทิ้งไว้ข้างหลังเยอะมาก เด็กไม่มีอุปกรณ์ทางเทคโนโลยี เพราะฉะนั้นผู้บริหารจึงต้องกล้า หลายคนบอกว่าการเสี่ยงซื้ออุปกรณ์การเรียนจะติดคุก แต่ด้วยคุณภาพทางการศึกษาของคนกรุงเทพอย่างเท่าเทียมก็จำเป็นต้องทำ

 

สรุปวิสัยทัศน์ 6 แคนดิเดต ประชันชิงตำแหน่งเลือกตั้ง"ผู้ว่าฯกทม65"

 

ขณะที่วัยทำงานมีมากขึ้นในกรุงเทพฯ เด็กสมัยนี้นิยมทำงานแบบอิสระ ไม่สังกัดที่ใด จึงต้องมีการหาพื้นที่อย่าง Cold working Space  นอกจากนี้ชูนโยบายเชื่อมต่อระบบล้อ ราง เรือ ให้คนในกรุงเทพฯใช้ขนส่งสาธารณะให้มากขึ้น ใช้รถ EV ไปยังชุมชนต่างๆที่ไม่มีรถประจำทางเข้าถึง เพื่อเชื่อมต่อสู่ระบบราง โดยจะต้องมีการเชื่อมต่อเป็นระบบใยแมงมุมให้มากที่สุดและราคาต้องจับต้องได้

 

ขณะที่พื้นที่สีเขียวสวนสาธารณะ 30 แห่งในกรุงเทพฯจะต้องมีการเพิ่มศักยภาพ ขณะที่คนสูงอายุนโยบายต้องเข้าถึง เพื่อให้คนสูงอายุได้ทำงาน เมื่อเจ็บป่วยจะศูนย์สาธารณสุขใกล้บ้านจะต้องเป็นสมาร์ทคลินิก คนเสียภาษีต้องมีสิทธิเท่าเทียมกันต่อยอดเทคโนโลยีใช้ ปรับวิธีคิดใหม่หารายได้เข้ากทม

 

ทั้งนี้นายสกลธี ระบุว่า วันที่ 22 พฤษภาคมนี้เลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร  ตนพร้อมทำเร็ว ทำเลย และทำทันที.

สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครหมายเลข 4 สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ ยืนยันว่าวันนี้ปัญหากรุงเทพฯหนักหนาสาหัสและซับซ้อนกว่าที่คิด ตนจึงตกผลึกในเรื่องของวิสัยทัศน์และเป้าหมายใน 4 ปี กรุงเทพฯเป็นเมืองสวัสดิการที่ทันสมัย ต้นแบบของอาเซียน คำว่าสวัสดิการเห็นชัดว่าวันนี้ ก็ไม่ได้เท่าเทียมกัน วันนี้สวัสดิการไม่ใช่ถูกหรือฟรี แต่ไม่มีคุณภาพ โรงเรียน สาธารณสุข และอื่นๆไม่ได้เท่าเทียมกัน

 

โดยนโยบาย 2 ด้านที่จะเปลี่ยนกรุงเทพฯ  โดยด้านแรกเปลี่ยนชีวิตคุณกรุงเทพมหานคร วันนี้สิ่งที่หนักหนาสาหัสที่สุดคือเรื่องเศรษฐกิจ ปัญหาปากท้อง วันนี้ต้องดูแลกัน ต้องมีกองทุนการจ้างงาน 2,000 ชุมชนชุมชนละ 600,000 ต่อปี สิ่งสำคัญที่สุดคือสาธารณสุข ตนตั้งใจจะดูแลเรื่องนี้อย่างเต็มที่ หมอมี สาธารณสุขมีใกล้บ้าน และที่สำคัญต้องเติมเครื่องมือแพทย์ ตนมีโอกาสได้สร้างเครื่องมือแพทย์ วันนี้หมอทำงานหรือเปล่าไม่ได้ต้องเติมเครื่องมือแพทย์ลงไป ไทยทำ ไทยใช้ ไทยรอด

 

ขณะที่เรื่องการศึกษาต้องการให้กรุงเทพฯเป็นเมืองที่การศึกษาดีใกล้บ้านจริงๆ และตั้งใจจะหยุดปัญหาน้ำท่วม น้ำเน่าน้ำหนุน ในรุ่นเราให้ได้ ขณะที่สิ่งแวดล้อมคุณภาพชีวิตวันนี้ฝุ่น PM 2.5 สูงขึ้นมาก ปัญหาสิ่งแวดล้อมคุณภาพชีวิตให้กับประชาชนอย่างจริงจัง

 

และสิ่งที่ประชาชนจะได้เห็นว่าผู้ว่าคนที่จะใช้ จะติดตั้ง Wifi 150,000 ทั่วกรุงเทพ นี่คือมาตรฐานของการเท่าเทียมกันในเรื่องเทคโนโลยี แต่ตนจะบอกว่ากรุงเทพฯในวันนี้ จำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีในการแก้ไขปัญหาเมือง internet WiFi 150,000 จะทำให้กรุงเทพฯนั้นปลอดภัย ซึ่งกล้อง WiFi ทำการทดสอบแล้ว ที่ตรอกเป็ด จะช่วยเรื่องความปลอดภัย แก้ปัญหาน้ำท่วม น้ำเน่า จำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีและเทคโนโลยีที่ใช้ WiFi ทั่วประเทศ

 

ส่วนปัญหาการจราจรวันนี้ จะเห็นได้ว่าเบิกเงินจะใช้เทคโนโลยีกันหมดแล้ว ให้เทคโนโลยีในการดูแลประชาชนให้ปลอดภัย วันนี้กฎหมายสำคัญเข้มข้นแต่คนไม่กลัวเพราะไม่เห็น หากเทคโนโลยี WiFi ทั่วประเทศกล้อง CCTV ที่ต่อวงจร WiFi ได้ ครบถ้วน แต่สามารถรู้ได้เลยว่าทำผิดกฎหมาย จะสามารถช่วยเรื่องความปลอดภัยได้อย่างเบ็ดเสร็จ มีความทันสมัยรถติดน้อยลงในทันที

 

โดยในช่วงท้ายนายสุชัชวีร์ ระบุว่า ตนอยากจะบอกว่าตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครไม่ใช่แบบการเมือง แต่เป็นตำแหน่งเฉพาะที่จะต้องเน้นความสำคัญในเรื่องความเป็นผู้นำ ความมุ่งมั่นจริงๆ ในช่วงอายุของตนนี้ประสบการณ์ตลอด 30 ปี อยากจะเห็นกรุงเทพฯนั้นเปลี่ยน ตนพร้อมจะเปลี่ยนด้วยความรู้เทคโนโลยีและวิศวกรรม ตนคนเดียวมาพร้อมกับ ส.ก. 50 คนที่พร้อมที่จะดูแลประชาชนและมีวิสัยทัศน์เริ่มต้นเหมือนกัน คือกรุงเทพฯต้องเป็นเมืองสวัสดิการที่ทันสมัยต้นแบบของอาเซียน.

 

สรุปวิสัยทัศน์ 6 แคนดิเดต ประชันชิงตำแหน่งเลือกตั้ง"ผู้ว่าฯกทม65"

 

 

พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้สมัครหมายเลข 6 ผู้สมัครอิสระ กล่าวแสดงวิสัยทัศน์ตอนหนึ่งว่า กทม. เป็นเมืองแห่งความหวังและโอกาสให้ประชาชนต่างจังหวัด เข้ามาเรียน ทำงาน มาหาที่ทำกิน มาสร้างอนาคตใหม่ ตนเป็นคนหนึ่ง ที่จะมาสร้างอนาคตมาสร้างความหวังให้กทม. นโยบายคือให้ประชาชนมีชีวิตปลอดภัย มีคุณภาพที่ดีขึ้น และชีวิตต้องสงบสุข ซึ่งปัจจัยการแก้ปัญหาในกรุงเทพมีเยอะ มีคนถามว่าการมาสมัครทำไมอยู่มา 5 ปี 5 เดือน 5 วันแล้ว ทั้งนี้เพราะปัญหาสลับซับซ้อนไม่สามารถทำได้ภายใน 5-7 เดือน

 

หากตนได้เป็นผู้ว่าจะทำต่อไป หรือหากคนอื่นได้เป็นก็ขอให้ททำจริง อย่าเขียนแต่วาทะกรรมหรือนโยบายที่สวยหรู ดูเท่ แต่ไม่ได้นำไปสู่การปฏิบัติเพราะมันไร้สาระ การดูแลเมืองกรุงเทพมหานคร ตนไม่ใช่นักนโยบายเขียนนโยบายไม่เก่ง แต่ตนสามารถหาคนเก่งมาเขียนนโยบายให้ทำไปสู่การปฏิบัติ ผู้ว่าฯ กทม. ต้องดูแลชาวบ้าน ผู้ว่าฯ กทม. ไม่ใช่การเมือง แต่เป็นการบ้านที่ต้องดูแลประชาชนตั้งแต่เกิดจนแก่

 

“ถ้าเลือกอัศวิน ประชาชนสบายใจได้ ทั้งนี้การแก้ปัญหากทม. ไม่สามารถทำได้ภายใน 5 ปี และที่บอกว่าตนอยู่มานานความคิดใหม่ๆ อาจไม่มี ทั้งนี้ตนมีคนรุ่นใหม่เข้ามาช่วยหลายเรื่อง รวมถึงผู้พิการเข้ามาร่วม หากเรียกตนไม่ต้องนับหนึ่งใหม่ และกรุงเทพมหานครจะเป็นเมืองที่ปลอดภัย จะเป็นเมืองที่ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และจะต้องสงบสุข”

 

สรุปวิสัยทัศน์ 6 แคนดิเดต ประชันชิงตำแหน่งเลือกตั้ง"ผู้ว่าฯกทม65"

 

ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครหมายเลข 8 ผู้สมัครอิสระ กล่าวแสดงวิสัยทัศน์ ในเวทีดีเบต ‘เปิดฉาก ศึกชิงผู้ว่า กทม.65 ที่จัดขึ้นโดยนักศึกษาหลักสูตรผู้บริหารระดับสูงด้านการพัฒนามหานคร ร่วมกับ เนชั่น กรุ๊ป ที่ลานพาร์คพารากอน ว่า ตนเองเริ่มเตรียมตัวมานานกว่า2ปีครึ่ง โดยมีทีมเพื่อนชาติ ทั้งอาสาสมัคร และผู้เชี่ยวชาญมาร่วมงาน จนได้แนวคิดให้กรุงเทพเป็นเมืองที่น่าอยู่สำหรับทุกคน และจากการได้ลองไปดูตัวอย่างทั่วโลก ทำให้เชื่อว่า กทม.เป็นเมืองที่น่าอยู่ได้ด้วยนโยบาย 9ด้าน 9ดี และเชื่อว่านโยบายนี้จะไปแตะชีวิตและเมืองของเราน่าอยู่ขึ้น โดยนโยบายดังกล่าว เรื่มจาก ปลอดภัยดี พื้นที่จุดเสี่ยงก็ข้อมูลอยู่แล้ว ทั้ง ทางม้าลาย จุดที่มีอุบัติเหตุ กล้องซีซีทีวี จึงสามารถทำเรื่องนี้ได้เลยในการแก้ปัญหา และ ทำให้ประชาชนมีส่วนร่วม

 

สุขภาพดี เริ่มที่ศูนย์สาธารณะสุข69แห่วทั่วกรุงเทพ ต้องขยายเวลาและขยายบริการ และต้องนำหมอใส่ตู้ คือ เอาระบบคอมพิวเตอร์ใส่เข้าไป แล้วนำเอารถไปเคลื่อนลงไปยังชุมชน ลิ้งค์กับแพทย์ เป็นเหมือนแพทย์ทางไกลเข้าไปดูแลประชาชน ซึ่งทำได้เลย

 

สิ่งสิ่งแวดล้อมดี ก็มีการเข้าถึงพื้นที่สาธารณะสีเขียวทำได้ ซึ่งตนเองจะเข้ามาผลักดันให้เร็วขึ้น

 

การเรียนดี มองว่า เสาร์ อาทิตย์ ต้องเปิดเพื่อให้เป็นพื่นที่สร้างสรรค์ให้เด็ก

 

การบริหารจัดการดี ให้ประชาชนได้มีส่วนร้วมในการบริหารกทม.

 

การเดินทางดี โดยกทม.จะต้องเอาหน่วยงานทั้งหมดมาให้กทม.เป็นเซนเตอร์ เพิ่มจุดบริการรถเมล์ในพื้นที่ที่ยังไม่มีรถเมล์ใช้ รวมถึงคลองเพิ่มการสัญจรทางเรือ

 

โครงสร้างดี โดย กทม.จะต้องมีการปรับถนนให้เป็นไปตามแผน ของผังเมือง

 

ส่วนเศรษฐกิจดี มองว่า กทม.จะต้องหันมาสนใจกระตุ้นเศรษฐกิจให้มากขึ้น ทำเทศกาลประจำเดือน สร้างอนาคตของกทม.เป็นศูนย์การการประชุม/การท่องเที่ยว โดยมองว่า กทม.ไม่ได้มีหน้าที่แค่ลอกท่อ เก็บขยะ แต่อีก10ปีกทม.จะยืนตรงไหนของอาเซียน และตนเองจะเป็นผู้ว่าฯเที่ยงคืน และดูแลยันหว่าง เพื่อดูแลชีวิตคนกลางคืน เพราะเป็นชีวิตเศรษฐกิจสำคัญของเมือง

 

ส่วนสร้างสรรค์ดี กทม.จะต้องมีพื้นที่ให้เขามาเจอกันมาคิดสร้างสรรค์การทำงานต่างๆ ซึ่งใน 9ด้าน9ดีนี้ มีทั้งหมดกว่า200นโยบายที่เริ่มทำได้ทันที เพราะหัวใจสำคัญนโยบายต้องตอบโจทย์เป็นเมืองที่น่าอยู่สำหรับทุกคน ที่สำคัญ จะต้องทำน้อยแต่ได้เยอะ ลงทุนให้คุ้มค่า แต่ได้ผลที อย่างที่ตนเองคิด แนวทางของป้ายหาเสียง ทำเล็ก ติดน้อยแต่ได้เยอะเพราะตอบโจทย์คน ดังนั้นจึงต้องมาคิดว่าทำยังไงที่กทม.จะทำน้อยแต่ได้เยอะ เหมาะสมตอบโจทย์คน เพราะงบประมาณของกทม.ไม่ได้มีเยอะที่จะไปสร้างอะไรมากมายไม่ได้ ดังนั้นจึงต้องเริ่มจาก ไม่เส้นไม่ส่วย

 

นายชัชชาติ ยังกล่าวอีกว่า ตนเองจะเปลี่ยน ศาลาว่าการกทม.ให้เป็นพิพิธภัณฑ์เมือง ให้เกิดกิจกรรมสร้างสรรค์ และเปลี่ยนลานคนเมือง เพื่อให้เป็นพื่นที่ของคนกทม.จริงๆ โดยยืนยันว่า ตอนนี้นโยบายมีพร้อม และเป็นนโยบายที่ไม่เพ้อฝันทำได้จริง แต่ตนเองทำคนเดียวไม่ได้ จึงต้องมาร้วมสร้างไปด้วยกันเพื่อให้กทม.เป็นเมืองที่น่าอยู่สำหรับทุกคน

 

สรุปวิสัยทัศน์ 6 แคนดิเดต ประชันชิงตำแหน่งเลือกตั้ง"ผู้ว่าฯกทม65"

 

น.ต.ศิธา ทิวารี ผู้สมัครหมายเลข 11 สังกัดพรรคไทยสร้างไทย กล่าวแสดงวิสัยทัศน์ตอนหนึ่งว่า ตนมีความเชื่อว่ากทม. หรือมหานครต่างๆ เมืองหลวงของทุกประเทศไม่สามารถสร้างได้ด้วยคนคนเดียว ไม่สามารถสร้างได้ด้วยกทม. ซึ่งมีข้าราชการ และการคิดทำด้วยระบบราชการ ตนป็นคนกทม. โต เรียน ทำงานอยู่ที่กทม. ไม่ต่ำกว่า 50 ปี เห็นผู้ว่าฯ มาแล้ว 10 กว่าคน และเห็นนโยบาย 31 คนครั้งนี้นโยบายมีอะไรที่แตกต่าง นโยบายที่สวยรู้อย่างไรแต่ถ้ายังบริหารด้วยระบบรัฐราชการ เอาประชาชนอยู่ข้างล่างเปรียบเสมือนผู้ที่รองรับในระบบราชการเหมือนกับขวานเหมือนกับค้อน เหมือนกับอีโต้ที่ฟันลงไปที่พี่น้องประชาชน ไม่ได้สนใจว่าข้างล่างจะเป็นอย่างไร ระบบของกรุงเทพมหานคร รวมถึงระบบราชการของไทย เหมือนกรรไกรที่ต้องคมจากด้านบน ซึ่งจะบริการงบประมาณอย่างแหลมคมและต้องมีความคมจากด้านล่าง จากประชาชน จากเอ็นจีโอ ร่วมกันคิดร่วมทำกับชาวบ้านแต่เสียงเขาไม่เคยถึงผู้บริหารกทม. ระดับล่างรับฟังระดับบนปฎิเสธ

 

มิติที่สอง ตนเคยเป็นส.ส. คลองเตย นำเสนอกทม.ได้ทุกเขต ระบบราชการ ความเห็นคนในพื้นที่ไม่ได้รับการตอบสนองตอบสนองอย่างถูกต้อง กทม. ไม่สามารถสร้างได้ด้วยคนคนเดียว ดังนั้นผู้คนที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพมหานคร คือคนสร้างเมือง ทุกวันนี้เราเกิดความขัดแย้งทางซ้าย ทางขวา ทางด้านการเมือง แนวบนแนวล่าง ผู้ใหญ่กับคนรุ่นใหม่เกิดความขัดแย้งแตกแยกตามอายุ เด็กบอกจะย้ายประเทศ ผู้ใหญ่บอกไม่รักชาติก็ออกไป เราจะเป็นสะพานเป็นตัวเชื่อมให้คนรุ่นใหม่ ให้ดขาสามารถทำงานได้ เรา ต้องสร้างเมืองไทยให้ดีที่สุดเพื่อให้คนรุ่นหลังได้ทำมาหากิน จะเป็นดิจิตอลของกรุงเทพมหานคร และทำประเทศไทยให้เป็นดิจิทัลของคนทั่วโลก  ทั้งนี้ตนจะทำในสิ่งที่ผู้ว่าฯ กทม.ไม่เคยทำ ซึ่งเป็นสิ่งที่ติดอยู่ในใจของคนกทม. ว่าทำไมถึงไม่ทำ ทำไมปล่อยให้เป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ซึ่งคือสิ่งที่ผู้ว่าฯ กทม.ไม่เคยทำ

 

สรุปวิสัยทัศน์ 6 แคนดิเดต ประชันชิงตำแหน่งเลือกตั้ง"ผู้ว่าฯกทม65"

 

 

 

 

logoline