"นายกฯลุงตู่"ปัดเจรจาฝ่ายค้าน เลื่อนยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจปลายส.ค.

เมื่อวันที่ 8 เม.ย.65 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึง กรณีที่พรรคฝ่ายค้านเลื่อนการอภิปรายไม่ไว้วางใจไปจากเดิมช่วงเดือนพฤษภาคมไปปลายเดือนสิงหาคมว่ายังไม่ทราบ ก็แล้วแต่ท่าน ส่วนการเลื่อนเช่นนี้จะทำให้รัฐบาลหายใจได้ทั่วท้องและเตรียมตัวได้มากขึ้นหรือไม่ ตนหายใจได้ทุกวัน เตรียมตัวทุกวันอยู่แล้ว  ทำงานมาทุกวัน และจะชี้แจงข้อเท็จจริงไป คือจะเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น ไม่ได้อะไรทั้งสิ้น

เมื่อถามย้ำว่า การเลื่อนอภิปรายไม่ไว้วางใจ เหมือนมีการพูดคุยระหว่างฝ่ายค้าและตัวแทนจากรัฐบาลเพราะเป็น การเปิดอภิปรายหลังกฎหมายลูกเลือกตั้งผ่านสภา และพ.ร.บ.ปี 66 ผ่านวาระแรก นายกรัฐมนตรี กล่าวปฏิเสธ ไม่รู้  ไม่ได้คุย เรื่องกฎหมายต่างๆที่จะออก หรือแม้แต่เรื่องยุบสภา เห็นคนพูดแทนนายกฯตลอด ทั้งที่ไม่ได้พูดอะไรสักคำแล้วแต่

ส่วนรัฐบาลได้ประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจในช่วงหลังเทศกาลสงกรานต์หรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี  กล่าวว่า สถานการณ์การเมืองก็เป็นการเมืองแบบนี้ แต่จะดีขึ้น ทุกอย่างอยู่ที่ประชาชนทั้งหมด เพราะการเมืองก็คือการเมืองที่มาจากประชาชน หากประชาชนเข้าใจก็ต้องคุยกัน เพราะประชาชนเป็นคนเลือกผู้แทนเข้ามา จากนั้นก็มาเป็นคณะรัฐมนตรี เพราะฉะนั้นขึ้นอยู่กับการทำความเข้าใจซึ่งกันและกัน วันนี้เท่าที่ตนด้วยกันในครม.ก็ไม่เห็นมีปัญหาอะไรกัน

นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์  ระบุถึงกรณีที่นางสาวปารีณา ไกรคุปต์ อดีต ส.ส.ราชบุรีพรรคพลังประชารัฐ ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองจากการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนว่า เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรมต้องอยู่ด้วยกฎหมายจึงต้องระมัดระวัง ซึ่งวันนี้หลายอย่างเกิดบรรทัดฐานใหม่ขึ้นมา ถือเป็นการเปลี่ยนแปลง จึงต้องระมัดระวังอย่างถึงที่สุด หลายอย่างก็บอกมาแล้วไง ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะเงียบไปสักพักหนึ่ง

เมื่อถามย้ำว่า จะมีการป้องปรามอย่างไรนั้น นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ทุกคนไม่ใช่เฉพาะแค่นักการเมืองที่ต้องเคารพกฎหมาย อะไรที่ทำมาแล้วผิดก็รู้ตัวเองกันอยู่แล้ว ขอให้แก้ไขปัญหาให้ถูกต้อง เราไม่ได้เอาตายและเลือกปฏิบัติ และไม่ใช่เรื่องที่ตนไปดำเนินการ เพราะเป็นเรื่องที่ฟ้องร้องกันมา ในกระบวนการยุติธรรมก็ทำของเขาอยู่ นี่คือสิ่งที่ได้ดำเนินการมาตลอด ในระยะเวลาของตน ให้ทุกคนได้ทำงานตามนโยบายของรัฐบาล และนายกรัฐมนตรีในทุกพื้นที่

เมื่อถามถึงอนาคตพรรครวมไทยสร้างชาติ จะเป็นอย่างไร หลังจากที่นายสกล อัตถาวงศ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ถูกตรวจสอบเรื่องคดีโควต้าหวย นายกรัฐมนตรีย้อนถามสื่อมวลชนว่า ถามว่าถูกคดี เขาเป็นคดีแล้วหรือยัง แล้วเขาทำผิดทำถูก เราพิสูจน์ได้หรือยัง ไม่ได้แก้ตัวแทนเขา เพียงแต่ต้องเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบไป ก็ต้องไปดูว่าที่ทำมานั้นไปถึงไหน ก็ทำได้ระดับหนึ่งแล้วแต่ก็มีกรณีนี้เกิดขึ้นมา เขาก็ยอมรับในกระบวนการตรวจสอบ ก็เป็นเรื่องของคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ (กมธ.ป.ป.ช.) สภาผู้แทนราษฎร ที่เรียกไปตรวจสอบตามหลักฐานและข้อเท็จจริง เพราะฉะนั้น กมธ.ป.ป.ช.ก็ต้องตรวจสอบตัวเองด้วย ทุกคนที่มีคดีทั้งหมด

ส่วนกรณีของนายสกล ถูกผูกโยงมากับ นายพีระพันธุ์  สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ต้องลาออกจากพรรคพลังประชารัฐ เพื่อมาดูพรรครวมไทยสร้างชาติ นายกรัฐมนตรี กล่าวแบบทอดเสียงว่า ก็เรื่องของท่าน มันเรื่องอะไรของผมเล่า จากนั้นสื่อมวลชวนได้ตอบกลับว่า พรรครวมไทยสร้างชาติจะเสนอชื่อของพลเอกประยุทธ์ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีย้อนถามสื่อมวลชนว่า แล้วเขาเสนอได้กี่พรรค พรรคเดียวใช่ไหม วันนี้ยังอยู่ภาคไหน สื่อมวลชนได้ตอบกลับว่าพรรคพลังประชารัฐ นายกรัฐมนตรี ได้ตอบงึมงำพร้อมกับอุทานว่า เอ่อ..โถ่ 

จากนั้นสื่อมวลชนได้ถามย้ำว่า สุดท้ายแล้วพรรคพลังประชารัฐเสนอแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี 3 รายชื่อ พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า หัวหน้าพรรคเขากล่าวว่าเขาเสนอคนเดียว

เมื่อถามย้ำว่านายกรัฐมนตรีอนุญาตให้พรรคพลังประชารัฐ พลเอกประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีต่อใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรีตอบด้วยเสียงแข็ง ว่าเป็นเรื่องของพรรคการเมือง ก่อนที่จะเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าทำเนียบรัฐบาลในทันที

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างการให้สัมภาษณ์ของนายกรัฐมนตรี นายอนุทิน ชาญวีรกูลรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยได้ยืน ได้ชะโงกหน้ามามองสื่อมวลชนที่ถามนายกรัฐมนตรีในประเด็นการเมือง