"เอ๋ ปารีณา" ขอเวลาทำใจถูกตัดสิทธิการเมือง "ทนาย" ยกเป็นผู้กล้าตายคาสนามรบ
"ทนายทิวา" ยก "เอ๋ ปารีณา" เป็นผู้กล้าตายคาสนามรบ หลังศาลฏีกามีคำพิพากษาตัดสิทธิทางการเมือง ปมครอบครองที่ดินมิชอบ ขณะที่ "เอ๋ ปารีณา" น้อมรับคำพิพากษา แต่ขอเวลาทำใจ ก่อนให้สัมภาษณ์สื่อ
ภายหลังศาลฏีกานัดอ่านคำพิพากษาจากคดีที่ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด ปมครอบครองที่ดิน จ.ราชบุรี โดยมิชอบ อันเป็นเหตุให้ขัดต่อจริยธรรมทางการเมืองอย่างรุนแรง โดนตัดสิทธิรับสมัครเลือกตั้ง เเละดำรงตำเเหน่งทางการเมืองตลอดชีวิตนั้น
ล่าสุด น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส. ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ ว่า ทราบคำพิพากษาของศาลฎีกาแล้ว และน้อมรับทุกกรณี แต่ขอเวลาทำใจก่อน จะให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน
"ตอนนี้ยังไม่เจอใคร ยังไม่ได้คิดอะไร ตัวชา กำลังทำใจอย่างเดียว แต่ไม่ต้องทำพื้นที่แล้ว เหมือนคนตกงาน 100 เปอร์เซ็นต์ ไม่มีสภาให้ไป ไม่มีไก่ให้เลี้ยง ไม่เหลืออะไรแล้ว"
ขณะที่นายทิวา การกระสัง ทนายความของ น.ส.ปารีณา กล่าวว่า ยอมรับผลคำพิพากษา แต่ยืนยันว่า น.ส.ปารีณา ไม่ได้บุกรุกที่ป่าสงวนตั้งแต่แรก แต่เป็นการรับที่ดินต่อจากบิดา โดยพื้นที่ดังกล่าวเป็นที่ดิน ส.ป.ก.610 ไร่ ในปี 2555 และศาลชี้ให้เห็นว่า น.ส.ปารีณา ไม่ใช่คนจน และไม่ใช่บุคคลที่เป็นชาวไร่ในการประกอบอาชีพ ดังนั้นการครอบครองที่ดิน ส.ป.ก.จำนวนมาก ทำให้เกิดความเสื่อมเสียต่อการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับประชาชน
แม้ น.ส.ปารีณา จะคืนที่ดินแล้วในปี 2562 ซึ่งตามหลักควรต้องมอบคืนเลย ก่อนที่จะเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ดังนั้นถือว่ามีเจตนาที่จะครอบครองที่ดิน ส.ป.ก.ทำให้ประชาชนไม่สามารถได้รับการจัดสรรที่ดินในส่วนนี้ ศาลจึงพิจารณาว่าเข้าข่ายการผิดจริยธรรมร้ายแรง
การตัดสินวันนี้ ไม่สามารถทำให้ น.ส.ปวีณา เป็นนักการเมืองได้ และต้องพักผ่อนไปอีก 10 ปี ส่วนที่ระบุว่า มีการตัดสิทธิ์ทางการเมืองตลอดไป ต้องดูคำว่าผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคุณสมบัติอะไร เช่น เป็นผู้ที่มีคุณสมบัติการเลือกตั้ง และหากถูกตัดสิทธิ์ลง ส.ส.ดำรงตำแหน่งทางการเมืองไม่ได้ หากมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญใหม่ ก็มีโอกาสกลับมาดำรงตำแหน่งได้อีกครั้ง ขณะนี้ได้ไปพักผ่อนเช่นเดียวกับนายสิระ เจนจาคะ อดีต ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ
“ทั้งนี้ผมอยากให้รู้ว่าที่ผ่านมา น.ส.ปารีณา โดนมาเยอะ นี่คือผลของผู้กล้า ที่ตายกลางสนามรบ เป็นเรื่องปกติ แต่วีรบุรุษไม่เคยตายกลางสนามรบ ซึ่งนี่คือการเมืองไทย”
ภายหลังจากการฟังคำพิพากษา ตนไม่ได้มีการพูดคุยกับ น.ส.ปารีณา แต่ทราบว่า ได้เตรียมการทำฟาร์มไก่ใหม่ ส่วนเรื่องของคดี ต้องดูว่าตามกฎหมายสามารถยื่นอุทธรณ์ไปยังที่ประชุมใหญ่ของศาลฎีกาได้หรือไม่ หากทำได้ จะลองยื่นอุทธรณ์ดู ส่วนของคดีอาญาทางการเมืองทั่วไป สามารถยื่นอุทธรณ์ได้ แต่ในกรณีผิดจริยธรรมเป็นการพิพากษาคดีแรก จึงต้องศึกษาดูข้อกฎหมายก่อนว่าจะใช้ระเบียบเดียวกันหรือไม่
