ออกหมายจับเพิ่มอีก 4 แก๊ง ตร.ไซเบอร์รีดเงินนักพนันออนไลน์

ความคืบหน้าคดี กลุ่มชายฉกรรจ์หลาย 15 คน อ้างเป็นตำรวจไซเบอร์ บุกอุ้มค้นตัวผู้เสียหายและครอบครัว ขู่รีดเงิน 4 แสนบาท และพระ 1 องค์  สืบเนื่องจากเล่นพนันจากเว็บพนันออนไลน์ แล้วได้เงินเกือบ 2 ล้านบาท ซึ่งภายหลัง พ.ต.ต.คม รอดเภา ตำรวจไซเบอร์ได้เข้ามอบตัว รวมถึงทางตำรวจได้มีการออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มอีก 5 ราย ขณะที่ ทนายตั้ม พาพยานชี้ตัวผู้ต้องหา และคาดว่าผู้เสียหายจะเข้าให้ปากคำสัปดาห์นี้ (อ่านข่าว) 

ล่าสุดวันนี้ (4 เม.ย.) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. เปิดเผยว่า ล่าสุดพนักงานสอบสวน สน.บางนา ได้นำพยานหลักฐานไปขอให้ศาลออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องในคดีดังกล่าวเพิ่มอีก 4 คน ส่วนพฤติการณ์ของทั้ง 4 คนนี้ ได้ร่วมกับกลุ่มผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับไปก่อนหน้าโดยมีพยานหลักฐานเป็นภาพจากกล้องวงจรปิด และข้อมูลจากการสอบปากคำพยานรวมถึงผู้เสียหายว่า เป็นหนึ่งในผู้ร่วมขบวนการอุ้มรีดไถดังกล่าว

ส่วนพฤติการณ์การก่อเหตุและการร่วมกระทำความผิดยังไม่สามารถเปิดเผยได้ในขณะนี้ แต่จากการตรวจสอบข้อมูลของผู้ต้องสงสัยอีก 4 คน ที่กำลังไปขอหมายจับพบว่า เป็นพลเรือนธรรมดาและไม่เคยรับราชการตำรวจมาก่อนแต่อย่างใด ส่วนหลังจากนี้จะมีการออกหมายจับบุคคลอื่นเพิ่มเติมอีกหรือไม่ ต้องรอให้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องให้ได้ชัดเจนอีกครั้ง
 

ส่วนกรณีที่ พ.ต.ต.คม รอดเภา อดีตตำรวจไซเบอร์ที่ตกเป็นหนึ่งในผู้ต้องหา กล่าวอ้างถึงประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 134 ที่เกี่ยวข้องกับการนำตัวผู้ต้องหาไปส่งศาลว่า การกระทำดังกล่าวไม่ถูกต้องตามกฎหมายนั้น เบื้องต้นได้สอบถามไปยังพนักงานสอบสวน สน.บางนา แล้วและได้มีการตรวจสอบข้อกฎหมายพบว่าเป็นสิทธิที่พนักงานสอบสวนสามารถกระทำได้ 

ส่วนกรณีที่เพจสายไหมต้องรอด นำผู้เสียหายไปแจ้งความที่ สภ.สำโรงเหนือ จ.สมุทรปราการ ว่า ถูกกลุ่มคนอ้างเป็นตำรวจอุ้มตัวไปรีดไถเงินที่ได้จากเว็บพนันออนไลน์ มีลักษณะใกล้เคียงกับพฤติกรรมของผู้ต้องหาในพื้นที่ สน. บางนา ทั้งยังข่มขู่ผู้เสียหายว่า หากไปแจ้งความก็ไม่สามารถดำเนินการใด ๆ กับกลุ่มของตนเองได้ เนื่องจากรู้จักกับ ผบช.น. และ ผบช.ก. นั้น พล.ต.ท.สำราญ กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง และเชื่อว่ากลุ่มคนร้ายกล่าวอ้างเพียงลอย ๆ เท่านั้น ยืนยันตนไม่เคยมีพฤติการณ์เรียกรับผลประโยชน์ หรือสั่งการให้ผู้ใต้บังคับบัญชาไปทำสิ่งผิดกฎหมาย และเตรียมให้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าวแล้ว

ทั้งนี้หลังจากเกิดคดีอุ้มรีดไถในพื้นที่ สน.บางนา ได้สั่งกำชับไปยังผู้ใต้บังคับบัญชาทุกคน ห้ามไม่ให้กระทำการในลักษณะเดียวกัน หากพบก็ต้องดำเนินการตามกฎหมายไม่มีละเว้น ส่วนเรื่องทางคดีของ สน.บางนา ยืนยันจะดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายโดยไม่เลือกปฏิบัติ