"เเม่เเตงโม นิดา” เปิดใจ เหมือนหมดพลัง อยากจะตาย ยังร้องไห้กับรูปลูกทุกวัน

"เเม่เเตงโม นิดา" คุณแม่ภนิดา เปิดใจล่าสุด คิดถึงน้องเเตงโมมาก สะอื้นร้องได้กับรูปลูกทุกวัน ความคืบหน้าล่าสุดคดีเเตงโม โดยเมื่อวันที่ 1 เม.ย.65  เเม่เเตงโม  พร้อมด้วย ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์  เดินทางมายื่นผลชันสูตรเเตงโมรอบ 2 ของ ที่สภ.เมืองนนทบุรี  พร้อมกับได้เข้าให้ปากคำเพิ่มเติมอีกครั้ง

ขณะที่ ทนายเดชา กล่าวว่า ผลการชันสูตรรอบ 2 มีความคล้ายคลึงกับรอบเเรก ไม่มีความเเตกต่างที่มีนัยยะที่จะทำให้รูปคดีเปลี่ยนไป นั่นหมายความว่าการชันสูตรรอบเเรกจากสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ มีความเเม่นยำสูง ดังนั้นในทางคดีอาจใช้ผลชันสูตรรอบเเรกเป็นหลัก ส่วนรอบที่ 2 อาจนำมาประกอบกัน ขึ้นอยู่กับพนักงานสอบสวนสำหรับบาดเเผล  22 จุด เป็นเพียงร่องรอยการขีดข่วนตามร่างกายเท่านั้น ส่วนเล็บของเเตงโมมีการตัดเล็บทั้งสองข้างไปพิสูจน์เเล้ว ไม่พบดีเอ็นใครบนเรือ

ภายหลังการเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนสภ.เมืองนนทบุรี ทนายเดชาและเเม่เเตงโม ได้ออกมาให้สัมภาษณ์อีกครั้ง  ยืนยันว่าจะมีข่าวดีเร็ว ๆนี้อย่างช้าไม่เกิน 7 - 15 วันจะมีข่าวดีที่สังคมคาดหวัง โดยคนบนเรือบางคนหรือทุกคนอาจจะถูกดำเนินคดีหมด และกุนซือทั้งหมดอาจดำเนินคดี 

ส่วนจะเป็นคนมีสีหรือไม่นั้นไม่ขอตอบ การแจ้งข้อหา อาจจะมีหลายข้อหา ไม่ว่าจะประมาทให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย , ทำลายหลักฐาน , แจ้งความเท็จ ตำรวจไม่พูดเพราะต้องสับขาหลอก และรับรองว่าไม่ผิดหวัง

ทางด้านเเม่เเตงโม นางภนิดา ศิริยุทธโยธิน เปิดใจถึงลูกสาวสุดที่รัก แตงโม นิดา ไว้ว่า 

"คนเสียลูกพูดไม่ออก นับวันยิ่งคิดถึง ตนร้องไห้กับรูปลูกทุกวัน และเวลาที่ตนออกมาทำงานร่วมกับตำรวจ ทนาย ขอให้แตงโมช่วยตนด้วย โดยเพราะตนทำเพื่อแตงโม และขอให้ประสบความสำเร็จ

ตอนนี้เหมือนหมดพลัง เหมือนอยากจะตายด้วยซ้ำไป เพราะคิดถึงลูก มีรูปน้องโมใหญ่ๆอยู่ที่บ้าน จ้องหน้าลูกเป็นชั่วโมง ทำไมต้องทิ้งไป อายุสั้น กำลังสวย กำลังมีงาน มีสิ่งที่ดี อย่าให้พูดเยอะเลยตนจะร้องไห้ 

โดยส่วนตัว พอใจกับผลการชันสูตรรอบ2  ในตอนนี้ไม่มีอะไรค้างคาเเล้ว ส่วนเรื่องเเผลที่ต้นขาเกิดจากอะไรอยู่ในสำนวน  ส่วนปอและโรเบิร์ต ได้ติดต่อมาหาตนเมื่อวานนี้ พูดคุยถึงการปฏิบัติธรรมว่าทำให้อารมณ์เย็นลง แต่ยังไม่ได้เป็นการนัดเจอกัน หรือพูดคุยกันในประเด็นการสารภาพเรื่องที่เกิดขึ้นบนเรือ ซึ่งตนก็ยังไม่ได้เค้นถามเพื่อเอาคำตอบ ซึ่งยังไม่แน่ใจว่าจะมีการเปิดเผยความจริงเมื่อใด 

ทั้งนี้ ในส่วนของโซเชียลที่มีการตำหนิตน มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ตนนั้น  ตนเองยังไม่ได้อ่านข้อความที่ต่อว่าตน จึงไม่ถือสา ซึ่งถ้าอ่านก็คงจะเดือดไปเเล้ว"