วลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ลงนามในคำสั่งให้ประเทศที่อยู่ในบัญชีประเทศที่ไม่เป็นมิตรกับรัสเซีย ต้องเริ่มจ่ายค่าก๊าซเป็นเงินรูเบิลด้วยการเปิดบัญชีกับธนาคารของรัสเซียตั้งแต่วันศุกร์นี้ หากประเทศไหนไม่ทำตามอาจถูกตัดการส่งก๊าซไปให้ ซึ่งปูตินพูดไว้ว่าที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีใครขายอะไรให้กับรัสเซียแบบฟรี ๆ ไม่รับเงิน รัสเซียก็คงไม่ใจบุญให้อะไรใครฟรี ๆ เหมือนกัน ซึ่งหมายความว่าหากประเทศไหนไม่สามารถทำตามกฎการจ่ายเงินแบบใหม่ของรัสเซียได้ ก็จะถือว่าฝ่ายนั้นเป็นฝ่ายผิดสัญญาและข้อตกลงในการทำธุรกิจที่ผ่านมาจะถือว่าเป็นโมฆะ
ชาติตะวันตกที่อยู่ในบัญชีประเทศที่ไม่เป็นมิตรกับรัสเซีย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาติยุโรปออกมาปฏิเสธที่จะจ่ายเงินค่าก๊าซที่ซื้อจากรัสเซียด้วยเงินรูเบิล เพราะตามสัญญาคือตกลงกันไว้ว่าจะจ่ายด้วยเงินยูโรและดอลลาร์ การเปลี่ยนกฎการจ่ายเงินของรัสเซียจึงเป็นการกระทำที่ผิดสัญญา
รัสเซียเป็นผู้ส่งก๊าซให้ยุโรปมากถึง 1 ใน 3 ของที่ใช้ในยุโรปทั้งหมด หากยุโรปถูกรัสเซียตัดการส่งก๊าซมาให้จะก่อให้เกิดวิกฤตด้านพลังงานขาดแคลนในยุโรปได้ เรื่องนี้ทำให้หลายประเทศในยุโรปเตรียมมาตรการที่จะหาแหล่งพลังงานสำรองมาใช้หากถูกรัสเซียตัดการส่งก๊าซมาให้ นอกจากนี้ก็จะมีการรณรงค์ให้ประชาชนใช้พลังงานน้อยลง หรือรัฐอาจจะต้องเข้ามาแทรกแซงปันส่วนการใช้พลังงานเพื่อให้พลังงานไม่ขาดแคลน
นักวิเคราะห์มองว่าการบังคับให้ชาติตะวันตกจ่ายค่าก๊าซด้วยเงินรูเบิล คือความพยายามของปูตินที่ต้องการกระตุ้นค่าเงินรูเบิลที่ตกลงมาจากการถูกชาติตะวันตกคว่ำบาตร โดยคำสั่งนี้จะทำให้ประเทศที่ต้องการซื้อก๊าซจากรัสเซีย ต้องนำเงินยูโรหรือดอลลาร์มาแลกเป็นเงินรูเบิลกับธนาคารของรัสเซียเท่านั้น ซึ่งจะช่วยแก้ไขวิกฤตค่าเงินรูเบิลตกต่ำ ปูตินยังบอกด้วยว่าชาติตะวันตกกำลังหาวิธีที่จะคว่ำบาตรรัสเซียเพิ่มเติม จึงเป็นเรื่องสำคัญที่รัสเซียต้องรักษาอัตราการจ้างานและสร้างงานใหม่ ๆ ขึ้นมาในประเทศ นอกจากนี้ปูตินยังกล่าวหาสหรัฐฯ ว่าเป็นผู้ที่ได้รับผลประโยชน์จากความวุ่นวายที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะอุตสาหกรรมผลิตอาวุธที่กำลังกอบโกยกำไรอย่างมหาศาล