ความฝันพังทลาย ชาวเน็ตบ่นอุบนาฬิกาคอลเลคชั่นดังใส่แล้วสีลอกไม่สมราคา

เป็นกระแสในบ้านและทั่วโลกอย่างมากเมื่อช่วงสัปดาห์ก่อน สำหรับนาฬิกาคอลเลคชั่นพิเศษ BIOCERAMIC MOONSWATCH ที่ร่วมกันออกแบบระหว่าง Swatch และ Omega จนทำให้เกิดดราม่าผู้คนจำนวนมากพากันแห่ไปเข้าคิวซื้อ โดยในส่วนของบ้านเรา นาฬิการุ่นดังกล่าวมีวางจำหน่ายที่ห้างดัง 3 สาขา ไอคอนสยาม สยามพารากอน และเซ็นทรัลเวิลด์ และได้เกิดเหตุชุลมุน จนทางแบรนด์ต้องยกเลิกการจำหน่าย และเปลี่ยนไปขายทางออนไลน์

ก่อนที่ภายหลังทางแบรนด์จะสร้างความงุนงงกับแฟนคลับนักสะสมนาฬิกาทั่วโลก ด้วยการแจ้งยกเลิกวางจำหน่ายนาฬิการุ่นพิเศษ "OMEGA x SWATCH" แบบกะทันหัน โดยอ้างกระแสดีเกิดคาด หวั่นกระทบความปลอดภัยของผู้ที่จะมาซื้อ (อ่านข่าว) 

กระแสดราม่าของนาฬิการุ่นพิเศษ "OMEGA x SWATCH" BIOCERAMIC MOONSWATCH ที่เกิดขึ้นทำให้บรรดาผู้ที่ชื่นชอบและไม่ชื่นชอบนาฬิกา ต่างพากันตั้งคำถามถึงความพิเศษของนาฬิการุ่นดัง แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้เริ่มมีชาวเน็ตบางส่วนในต่างประเทศที่สามารถซื้อได้ทันและนำไปใช้ นำมารีวิวหลังการใช้งานจริง แต่ผลที่ได้ออกมาคือไม่ค่อยเวิร์คสมกับที่เกิดกระแสดราม่าชึ้น ก่อนจะมีการแชร์จนกลายเป็นไวรัลทางโซเชียล 

โดยผู้ใช้นาฬิการุ่นดังกล่าวในต่างประเทศ ไปโพสต์รีวิวลงกรุ๊ป Omega x Swatch Moonswatch ที่เมื่อแปลเป็นภาษาไทยจะมีเนื้อหาประมาณว่า 

“แกะกล่องออกมา คริสตัลมีรอยขีดข่วนเต็มไปหมด และสีบนดวงดาวด้านหลังก็ดูเหมือนจะไหลเปื้อนผิว จริง ๆ แล้ว นาฬิกาก็ให้ความรู้สึกถูก ไม่คุ้มกับ 260 ดอลลาร์ (ราคาในไทย 8700 บาท) GA-2100 ยังคุ้มกว่า แต่หากว่าชอบแบรนด์นี้ก็จัดไปได้เลย โดยรวมแล้วไม่ประทับใจเท่าไหร่"

ชาวเน็ตรายดังกล่าว ยังกล่าถึงสาเหตุของการลอกของสีครั้งนี้ "เป็นเพราะไปร่วมปาร์ตี้ และในงานก็มีอากาศร้อน ซ้ำสายให้ความรู้สึกเหมือนขยะ ตัวนาฬิกาก็เบา"

ภายหลังที่โพสต์ดังกล่าวถูกแชร์ออกไป ได้มีแฟนคลับของนาฬิการุ่นนี้ออกมาแสดงความคิดอย่างหลากหลาย และบางส่วนแย้งว่า คุณภาพตามราคา เพราะนี่คือนาฬิกาสวอช จะให้คุณภาพถึงขั้นของโอเมก้าในราคาสวอช คงเป็นไปไม่ได้ 

อย่างไรก็ตามปัญหาเรื่องของสีลอกของนาฬิการุ่นนี้ ดูเหมือนว่าจะมีผู้ใช้งานหลายคนประสบพบเจอ โดยบนเว็บไซต์ Reddit  มีหลายคนเข้ามาโพสต์ว่า พวกเขาก็เจอกับประสบการณ์สีลอกเช่นกัน มีผู้ใช้รายหนึ่งระบุว่า “คนอื่นเป็นแบบนี้ไหม ฉันไม่รู้ว่านี่ของปลอมไหม มันยากจะเชื่อว่ามีอะไรแบบนี้เกิดขึ้นกับแบรนด์ใหญ่อย่างสวอช”