ตำรวจย้ำทำคดีแตงโมภายในกรอบเวลา ยังรอผลชันสูตรรอบสองก่อนสรุปสำนวน

วันนี้ (25 มี.ค.) ที่ สภ.เมืองนนทบุรี เมื่อเวลา 14.30 น. พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1)  พร้อมด้วย พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงความคืบหน้าคดีการเสียชีวิตของดาราสาว "แตงโม นิดา" โดยมี "นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน" แม่ของแตงโมร่วมนั่งฟังการแถลง 

พล.ต.ท.จิรพัฒน์ กล่าวว่า ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้มีการสอบพยานหลักฐานไปแล้ว 118 รายการ มีกล้อง 70 ตัว 200 ไฟล์, ผู้เชี่ยวชาญ 18 ปาก, วัตถุพยาน 51 ชิ้น,พยานแวดล้อม 92 ปาก, ผู้ถูกกล่าวหา 2 คน, พยานในที่เกิดเหตุ 3,โทรศัพท์มือถือ 13 เครื่อง และกำลังตรวจสอบพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ส่วนกรณีที่วานนี้ (24 มี.ค.) กมธ.สิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา เดินทางมาตรวจสอบเรือสปีดโบ๊ทของกลาง (อ่านรายละเอียด)  และสั่งให้ตำรวจทำ 3 เรื่อง

ขอชี้แจงว่า กรณีที่ให้มีการสอบปากคำพยานผู้มีเชี่ยวชาญ ตำรวจได้มีการสอบสวนเกินกว่าที่ แพทย์หญิงคุณหญิงพรทิพย์ ตั้งข้อสังเกต นอกจากนี้ยังนำเรือและวัตถุพยานที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ ไปทดลองหลายครั้ง เพื่อให้สำนวนมีความครบถ้วนสมบูรณ์ 

ส่วนที่ให้นำพยานบนเรือทั้ง 5 คน เข้าเครื่องจับเท็จนั้น การที่จะนำใครเข้าเครื่องจับเท็จ ตำรวจจะต้องประชุมเพื่อสรุปประเด็นที่ใช้ตั้งคำถาม เพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญไปวิเคราะห์ต่อว่าสามารถใช้ได้หรือไม่ เรื่องนี้ตำรวจเตรียมนำเข้าที่ประชุมอยู่แล้ว และอยากย้ำว่า เครื่องจับเท็จเป็นเพียงเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ ไมใช่เครื่องมือวิเศษที่นำใครเข้าไปแล้วจะได้ข้อเท็จจริงออกมา 

ส่วนเรื่องของการเก็บเรือสปีดโบ๊ทของกลางนั้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบและเก็บหลักฐานทั้งหมดแล้ว และหมดความจำเป็นที่จะต้องเก็บเรือไว้ แต่ที่ยึดไว้เพราะเป็นยานพาหนะที่เกี่ยวข้องในคดี จึงต้องรอคำสั่งศาลว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป 
 

เมื่อถามว่า การดำเนินการของคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา เข้าข่ายแทรงแซงการทำงานของพนักงานสอบสวนหรือไม่ พล.ต.ท.จิรพัฒน์ กล่าวว่า ตนไม่สามารถตอบได้ 

เมื่อถามว่า ในเมื่อการสอบสวนค่อนข้างครบถ้วนแล้วการสรุปคดีจะมีเมื่อไหร่ พล.ต.ท.จิรพัฒน์ กล่าวว่า ขณะนี้สำนวนยังขาดผลการชันสูตรรอบสองอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรจากทางสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งเมื่อส่งมาตำรวจจะต้องมีการเรียกสอบปากคำแพทย์ที่ทำการผ่าพิสูจน์รอบสอง ซึ่งผลการชันสูตรรอบสองตำรวจจะนำเข้าไปรวมในสำนวน และหากไม่ตรงกับผลการชันสูตรรอบแรกก็จะต้องมีการสอบต่อ  

"การทำงานของพนักงานสอบสวนทั้งหมด ทำตามพยานหลักฐานและกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างตรงไปตรงมา ที่ผ่านมาก็เร่งทำงานทุกวัน เพื่อให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียหายอย่างเต็มที่ โดยมีเป้าหมายคือนำคนผิดมาลงโทษให้ได้" 
 

เมื่อถามว่า กรอบระยะเวลาสรุปสำนวนให้อัยการกำหนดไว้กี่วัน พล.ต.ท.จิรพัฒน์ กล่าวว่า ตามขั้นตอนกฎหมายคือ 60 วัน แต่สามารถขยายได้ ซึ่งตอนนี้สำนวนพร้อมแล้ว แต่ยังต้องรอหลักฐานที่ไม่ครบก่อน เพื่อนำรวมไว้ในสำนวน 

"ฝากเรียนสื่อถึงกรณีที่ ผบ.ตร. ได้ชี้แจงเรื่องการทำคดี ขอให้ถ่ายทอดให้ครบถ้วน อย่าไปตัดเพียงบางท่อนบางตอนไปโพสต์ตามที่ต่าง ๆ เพราะจะทำให้ประชาชนเกิดความไขว้เขว ย้ำว่า ตอนนี้ตำรวจทำงานตามขั้นตอนของกฎหมายและอยู่ในห่วงเวลาที่กำหนด"
 

เมื่อถามว่า กรณีที่ "ปอ โรเบิร์ต" มารายงานตัวจะต้องมารายงานตัวอีกครั้งเมื่อใด พล.ต.ท.จิรพัฒน์ กล่าวว่า ทั้งคู่จะต้องมารายงานตัวอีกครั้งวันอังคารหน้า และมีกำหนดบวช 15 วัน ขณะนี้ตำรวจยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาใครเพิ่มเติม 

ส่วนกรณีที่ คุณหญิงหมอพรทิพย์ อ้างมีนายตำรวจใหญ่โทรไปข่มขู่น้้นตนผมไม่ทราบ หากไม่สบายใจก็ให้มาพบตนหรือตำรวจได้ พร้อมจะดูแล ยืนยันว่า ตำรวจระดับ ตร.ไม่มีแทรกแซงคดีแน่นอน การสอบสวนเป็นไปตามกฏหมายใครก็มาแทรกแซงไม่ได้ ส่วนกระโปรงสีขาวที่หายไปตำรวจยังไม่เจอ แต่จะคุยกับคุณแม่อีกครั้ง หากใครพบขอให้แจ้งมา และกรณีที่ DSI เตรียมแถลงเรื่องนี้ ที่ผ่านมายังไม่ได้มีการประสานขอข้อมูลมาเรื่องมีคนร้องเป็นคดีพิเศษ เพราะแม่แตงโมเองก็ยังไม่ได้ประสงค์ 

ด้านนางภนิดา เผยว่า ก่อนหน้านี้ตนเดินทางไปที่ท่าเรือพิบูลย์สงคราม 1 เพื่อไว้อาลัยแตงโม โดยความรู้สึกที่ผ่านมา ตนยุ่งมากก่อนหน้านี้แตงโมมักชวนตนไปที่โบสถ์ ทำให้ซึมซับว่า เขาสอนให้คนรักกันให้อภัยกัน ก่อนหน้านี้ในงานไว้อาลัยแตงโม ตนโกรธคน 3 คน คือ หนุ่มกรรชัย กระติก และทนายษิทรา แต่ อ.ธงชัย ประดับชนานุรัตน์ ศาสนาจารย์ ผู้ประกอบพิธีไว้อาลัยให้แตงโม บอกให้ตนให้อภัยเพื่อจะได้ไม่หนักสมอง ซึ่งแรก ๆ ตนก็เฉย ๆ แต่ภายหลัง อ.ธงชัย ได้จูงมือทั้ง 3 คนมาขอขมาตน ตนจึงให้อภัยตอนนี้ไม่โกรธหรือติดใจใครแล้ว

หลังเสร็จจากงานของแตงโมตนขอเวลาทำใจ และจะเปลี่ยนไปนับถือศาสนาคริสต์เพื่อเป็นของขวัญให้แตงโมตามที่ขอ ส่วนพิธีเผาแตงโมนั้น ได้คุยกับ อ.ธงชัย แล้ว ตนขอให้คดีนี้จบก่อน แต่ก็ไม่ได้รีบอะไรเพราะให้เวลาตำรวจได้ทำงานอย่างเต็มที่ตนรอได้ แตงโมก็รอได้ ยืนยันว่า เชื่อมั่นการทำงานของตำรวจและพนักงานสอบสวนชุดนี้ ไม่จำเป็นต้องส่งเรื่องให้ดีเอสไอดำเนินการ ส่วนจะมีการฟ้องแพ่งหรือไม่นั้น เป็นหน้าที่ดำเนินการของทนายเดชา ที่ตนได้มอบหมายคดีไปให้แล้ว

นางภนิดา ยังกล่าวถึง การไปไว้อาลัยแตงโมที่ท่าน้ำพิบูลย์สงครามว่า  ตนเห็นแม่น้ำตนรู้สึกหนาวสั่น และรู้สึกสะท้อนใจว่า ลูกเราตกไปตาย หัวใจแม่สลาย หัวใจสลายตั้งแต่วันที่เกิดเหตุ ไม่อยากเชื่อว่าเหตุจะมาเกิดกับลูกตนลูกเรามาทำอะไรที่นี่ ตอนนี้ก็ยังทำใจไม่ได้ ทุกวันนี้ยังลูบหน้ารูปภาพแตงโมที่บ้านเพื่อคุย ร่างกายเริ่มผอม 

ภายหลังการแถลง นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาล ที่มาฟังการแถลง ได้พูดคุยกับนางภนิดา โดยนายสันธนะ เผยว่า ตนนำหลักฐานมาให้กับทางตำรวจ ไม่ได้ต้องการหาผลประโยชน์จากคดี เพียงแค่อยากช่วยแตงโม ส่วนเรื่องทางคดีให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ