23 มีนาคม 2565 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า การประชุมใหญ่ของพรรคพลังประชารัฐที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 3 เม.ย.นี้ เป็นเพียงการเพิ่มเติมตำแหน่งที่ว่างเท่านั้น และยังไม่ทราบว่าจะวางตัวใครดูสนามเลือกตั้งส.ก.เป็นพิเศษ และไม่รู้ว่าคณะกรรมการบริหารพรรค(กก.บห.)จะเลือกใคร แต่ยืนยันว่าจะส่งผู้สมัครลงส.ก.ครบทุกเขต
ส่วนจะมีเซอร์ไพร์สหรือไม่ พล.อ.ประวิตรถามกลับว่า เซอร์ไพร์สอะไร มีแต่เซอร์ไพรส์ผมน่ะสิ พร้อมกับยืนยันว่าไม่สามารถเชิญพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ได้ พร้อมย้อนถามสื่อมวลชนว่า ไปได้หรือ นายกฯจะเข้ามายุ่งกับกิจการของพรรคไม่ได้เลย เนื่องจากผิดกฎหมาย
ส่วนจะให้การสนับสนุนว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.คนใด ก็เป็นเรื่องของตน ไม่ใช่เรื่องของผู้สื่อข่าว และผู้สื่อข่าวจะมาถามตนทำไม ใครเขาอยากรู้ มีเพียงผู้สื่อข่าวเท่านั้นที่อยากรู้
ส่วนการเตรียมความพร้อม รับมือการอภิปรายไม่ไว้วางใจเมื่อเปิดสมัยประชุมสภาฯในช่วงเดือนพฤษภาคมนี้ พล.อ.ประวิตร ระบุว่า ยังไม่ถึงเวลา ขออย่าห่วง ไม่ต้องมีการเช็คเสียง ก่อนที่จะตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า ผ่านอยู่แล้ว ส่วนเสียงของพรรคเศรษฐกิจไทยนั้น เป็นหน้าที่ของตนที่จะต้องไปเจรจาเอง
ขณะที่ข้อกังวลของพล.อ.ประยุทธ์ ที่ห่วงการประชาสัมพันธ์ของรัฐบาลนั้น พล.อ.ประวิตร ระบุว่า นายกฯบ่นทุกครั้ง รัฐบาลทำงานเยอะแยะ และให้ทุกหน่วยงานประชาสัมพันธ์ เพื่อสร้างความรับรู้ให้กับประชาชน ที่สำคัญคือสื่อมวลชนต้องรู้
ในช่วงท้าย ผู้สื่อข่าวได้ถามย้ำพล.อ.ประวิตร ในฐานะรองนายกรัฐมนตรี ว่าจะต้องปรับการทำงานหรือไม่ ซึ่งพล.อ.ประวิตร ได้ถามกับสื่อมวลชนว่าตนทำดีแล้วหรือยัง ไม่ดีเหรอ หากไม่ดีก็มาไล่ผมออก พร้อมยืนยันว่า นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ยังคงสังกัดพรรคพลังประชารัฐอยู่
ผู้สื่อข่าวถามย้ำอีกว่า พรรคพลังประชารัฐจะสนับสนุนใคร ระหว่าง นายสกลธี ภัททิยกุล ว่าที่สมัครผู้ว่าฯกทม.และ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ซึ่งพล.อ.ประวิตรหันกลับมาย้อนถามสื่อมวลชนว่า คุณจะเอาใคร คุณก็เอาคนนั้น ก่อนที่จะขึ้นรถเพื่อเดินทางกลับโดยทันที