“หมอแล็บ” ชี้ ผมงอกใหม่ตรวจหาสารเสพติดไม่ได้ แนะขนในที่ลับยังตรวจได้

ยังคงเป็นที่คาใจสำหรับกรณีการเสียชีวิตของดาราสาวชื่อดัง “แตงโม นิดา”  ซึ่งเสียชีวิตจากการพลัดตกจากสปีดโบ๊ทกลางแม่น้ำเจ้าพระยา  

โดยก่อนหน้านี้แพทย์หญิงคุณหญิง พรทิพย์ โรจนสุนันท์ ได้เคยออกมาให้สัมภาษณ์ว่า   "แตงโม นิดา"  มีผลปริมาณแอลกอฮอล์ที่ตรวจพบในลูกตา 93 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ 

ในขณะที่อีก 5 คนพบเรือ ไม่ยอมตรวจแอลกอฮอล์ในวันเกิดเหตุ แต่มาตรวจภายหลัง ซึ่งมันไม่แฟร์กับคนตาย ทำไมวันนั้นไม่ตรวจทันที

ซึ่งเรื่องการตรวจแอลกอฮอล์และสารเสพติดเป็นอีกหนึ่งประเด็นที่คนในสังคมยังคงคาใจ โดยเฉพาะสมาชิก 5 คนในเรือสปีดโบ๊ท ล่าสุด (21 มี.ค.65) แฟนเพจเฟซบุ๊ก “หมอแล็บแพนด้า” ได้โพสต์ข้อความระบุว่า

“ผมที่งอกใหม่ไม่สามารถตรวจหาสารเสพติดได้ ต้องเป็นผมตอนที่เคยเสพ แต่ขนเก่าเช่นขนในที่ลับยังพอตรวจได้อยู่”

อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ “หมอแล็บแพนด้า” ได้เคยโพสต์ข้อความให้ความรู้เรื่องการตรวจหาสารเสพติด โดยระบุว่า ใครเคยถูกพี่ตำรวจตรวจปัสสาวะบ้างครับ ที่เขาตรวจหาจากปัสสาวะก็เพราะว่า พอเราเสพยาเข้าไปไม่ว่าจะกิน สูด เข้าสู่ร่างกายแล้ว สารพวกนี้จะเข้าไปในกระแสเลือดประมาณ 2-3 ชั่วโมง(ตรวจหาในเลือดก็เจอ)

จากนั้นมันจะถูกขับออกทางปัสสาวะ ซึ่งสารเสพติดจะตรวจหาเจอได้ในปัสสาวะนานถึง 2-6 วัน ดังนั้นเวลามีเคสดังๆ ที่ต้องตรวจยาเสพติด เขาก็เลยหลบหน้าหลบตาหายไปซัก 2-3 วันแล้วค่อยโผล่มา ส่วนใหญ่มักจะบอกว่าตกใจ หรือกลับไปรวบรวมสติที่บ้าน อะไรประมาณนี้ 55555

แต่นักสืบโคนันอย่างเราก็ยังพอมีวิธีตรวจหาอยู่นะครับ เพราะเวลาที่สารเสพติดมันไปตามกระแสเลือด มันก็พาสารเสพติดไปสะสมตามเซลล์ด้วย ไม่เว้นแม้แต่เส้นผม ต่อให้สระผมอย่างไรก็ไม่เกี่ยว สารเสพติดมันเข้าไปในแกนผมแล้ว

วิธีที่ใช้ตรวจวิเคราะห์สารเสพติดมีหลายวิธี เช่น Gas Chromatography/ Mass Spectrometry โดยที่เค้าจะเอาเส้นผมประมาณ 30-50 มิลลิกรัม หรือตัดผมให้ชิดหนังหัว เอามาซัก 100-200 เส้นจะดีมาก ล้างด้วยน้ำกลั่นและอะซีโตน แล้วใช้สารสกัดเอาสารเสพติดออกมาแล้วตรวจ ซึ่งสามารถตรวจได้ถึง 26 ชนิด จะเสพอะไรก็ตรวจได้หมด อยู่ในเส้นผมนานประมาณ 90 วันหรือ 3 เดือน โน่นแน่ะครับ

ที่มา :เพจเฟซบุ๊ก “หมอแล็บแพนด้า”