คลายร้อนกับ“ไอติมออแกร์นิก”สร้างรายได้หลักหมื่นต่อเดือน

     ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ อ.สะเมิง จ.เชียงใหม่ พบว่าได้มีกลุ่มคนรุ่นใหม่ได้หันหลังให้งานประจำแล้วตั้งใจกลับมาบ้านเกิด เพื่อกลับมาสร้างงานในชุมชน และร่วมมือร่วมใจกันขับเคลื่อนเกษตรอินทรีย์ให้เกิดเป็นรูปธรรม และยังต่อยอดให้เป็นเมนูไอศกรีม ที่ใช้วัตถุดิบทั้งผลไม้ และพืชผัก ที่ลงทุนลงแรงปลูกกันเองในพื้นที่ด้วยกรรมวิธีแบบออร์แกนิค มาปรับโฉมให้กลายเป็น เมนูยอดฮิต ที่คอไอศกรีมต้องเดินทางมาจากกรุงเทพ ต่างจังหวัด และคนในเชียงใหม่ต้องขอมาลิ้มรสความอร่อยกันสักครั้ง 

      สำหรับร้านนี้มีชื่อว่า “Ice Cream Café At Samoeng” ตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.สะเมิงใต้ อ.สะเมิง จ.เชียงใหม่ เจ้าของเป็นสามีภรรยาที่ลาออกจากงานประจำกลับมาสร้างธุรกิจที่บ้านเกิด และเป็นหนึ่งในแกนนำที่ชักชวนให้คนในชุมชนที่มีศักยภาพเป็นแหล่งผลิตสตรอว์เบอร์รี่ขนาดใหญ่ของจังหวัดเชียงใหม่  และแหล่งปลูกพืชผักนานาชนิด มาลองผิดลองถูกในการยกระดับคุณภาพของผลผลิตเข้าสู่วงการเกษตรอินทรีย์ และออแกร์นิก โดยเขาทั้งคู่เลือกที่จะทำเมนูไอศกรีม เพราะเชื่อว่า ผลไม้ และพืชผักในพื้นที่มีให้เลือกหลากหลาย  

     นายนที มูลแก้ว เจ้าของร้าน  “Ice Cream Café At Samoeng” บอกว่า เขากลับมาปรับปรุงหน้าบ้านที่ตั้งอยู่ข้างถนน เป็นร้านขายไอศกรีมให้กับลูกค้าเป็นนักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศ และแม้แต่คนในพื้นที่เอง โดยจุดเด่นของหน้าร้านสังเกตง่ายๆ จะมีพี่กวางยืนถือถ้วยไอศกรีมต้อนรับทุกท่านอยู่ ทีเด็ดของร้านนี้คือไอศกรีมแบบโฮมเมดทั้ง 15 รสชาติ ที่ทุกรสชาติทำมาจากผลไม้และผักออแกร์นิค จากเครือข่ายสะเมิงออแกร์นิค ประกอบด้วย เคล , อโวคาโด , มัลเบอร์รี่ , เผือก , เสาวรส , มะพร้าว , มะม่วงหาวมะนาวโห่ , ข้าวโพด , ลูกพลับ , กระเจี๊ยบ ,ฟักทอง , กล้วยน้ำว้า , มันเทศญี่ปุ่น , เซียนท้อ และ สตรอว์เบอร์รี ผลไม้ขึ้นชื่อของอำเภอสะเมิง

     ไม่เพียงแต่ ความพิเศษของรสชาติไอศกรีมออแกร์นิคที่สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับลูกค้าแล้ว ยังได้นำเอา “ข้าวควบ”หรือข้าวเกรียบว่าว มาทำเป็นถ้วยไอศกรีม ที่มีความกรอบ และความหอมเสริฟ์พร้อมกับไอศกรีมของทางร้าน  สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นเมนูไอศกรีมที่สื่อถึงความเป็นท้องถิ่น และเอกลักษณ์ให้กับร้าน Ice Cream Café At Samoeng

      นอกจาก ที่นี่จะผลิตไอศกรีมโฮมเมดที่ให้รสชาติดี และอร่อยแล้ว  ยังเมนูพิเศษจากการที่ได้ปลูกผักเคลออแกร์นิกมาทำเป็นเมนูน้ำปั่น ชื่อว่า "เคลออแกร์นิก" ที่ดูแล้วมีสีเขียวคล้ายน้ำผัก แต่เมื่อชิมรสชาติแล้วต้องบอกว่า สดชื่นด้วยความเปรี้ยวของเสาวรสตัดกับความหวานของไซรัป ทำให้รสชาติกล่อมกลม เรียกได้ว่าหากขับรถฝ่าดอยฝ่าเขาอันซับซ้อนมาเจอเมนูนี้ซักแก้ว ทำให้สดชื่นขึ้นทันตา ยิ่งมาพร้อมกับเบเกอรี่โฮมเมดอย่างขนมเค้กเคล ที่มีชั้นเชิงด้วยการแทรกสตรอว์เบอร์รีและแยมกระเจี๊ยบ ทำให้ละมุนละไมอร่อยสุดๆ

     ส่วนเรื่องราคา หากมองถึงความเป็นออแกร์นิก    และเทรนด์ในสังคมขณะนี้ อาจคิดว่ามีราคาสูง แต่เมื่อกวาดสายตาไปบนเมนูแล้ว ต้องตกใจกับราคาเพราะราคาถูกมาก อย่างไอศกรีม 1 ลูกอยู่ที่ 15 บาทเท่านั้น ยิ่งเมื่อสั่งเป็นเซ็ตที่ร้านจัดเอาไว้ยิ่งถูก อย่างเซ็ตข้าวควบที่มีไอศกรีม 3 ลูก อยู่ที่ 49 บาท หรือถ้ามาหลายคนสั่งเซ็ตใหญ่ 7 ลูก ราคาแค่ 69 บาทเท่านั้น ขณะที่เคลออแกร์นิก ปั่นผสมกับเสาวรส อยู่ที่แก้วละ 40 บาท นอกจากนี้ทางร้านมีเมนูเครื่องดื่มอื่นๆเช่น กาแฟ ชา น้ำผลไม้ ไว้บริการทุกท่าน

     นายนที  กล่าวอีกว่า จุดเริ่มต้นของตนเองเกิดขึ้นเมื่อโควิด-19 มาเยือนโลกใบนี้เมื่อ 3 ปีที่แล้ว ก่อนหน้านั้นทำงานเป็นลูกจ้างบริษัทดูแลระบบเน็ตเวิร์ค แต่มีที่ดินของครอบครัวที่ อ.สะเมิง พอโควิดมาก็ตามสเต็ปของเศรษฐกิจ รายได้หดหาย จึงได้ลาออกจากงานประจำ กลับมาลุยปลูกผักออแกร์นิค บนเนื้อที่ 2 ไร่ คิดว่าก่อนจะเริ่มมีแนวคิดในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้ผักและผลไม้ออร์แกนิค จึงได้ศึกษาการทำไอศกรีมจากยูทูป ก่อนจะลองผิดลองถูก จนได้ไปอบรมกับทางมหาวิทยาลัยแม่โจ้ และศูนย์วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ปศุสัตว์เชียงใหม่ ก่อนจำนความรู้กลับมาทดลองจนได้เป็นไอศกรีมโฮมเมดรสชาติสตรอว์เบอร์รีเป็นรสชาติแรก จากนั้นได้มีการเริ่มทำกลุ่มสะเมิงออแกร์นิก ตนเองจึงเข้าไปร่วมทำกลุ่มในด้านการตลาด เพราะตนเองมองถึงการช่วยพัฒนาบ้านเกิดของตนเองให้มีความพัฒนาก้าวหน้า จากนั้นจึงได้ผลไม้และผักออแกร์นิก จากกลุ่มมาพัฒนาจนได้มาทั้ง 15 รสชาติที่ขายอยู่ทุกวันนี้

     นอกจากขายหน้าร้านแล้ว ตนเองมองว่าควรจะมีการขยายตลาด จึงได้ปรึกษากับเกษตรอำเภอสะเมิง ทำให้ได้มีการนำผลิตภัณฑ์ไปเผยแพร่ในกิจกรรมออกบูทการเกษตรตามที่ต่างๆ จนทำให้มีการติดต่อขอซื้อไอศกรีมไปขายในที่ต่างๆ โดยขนส่งผ่านทางบริษัทขนส่งเอกชน ทำให้ทุกเดือนมีรายได้ตั้งแต่ 30,000 – 40,000 บาท

     “มีหลายคนชอบถามว่าทำไมขายราคาถูก สวนกระแสคนรักสุขภาพที่ส่วนใหญ่ตั้งราคาหลักร้อยบาทขึ้นไป ในส่วนนี้ตนเองมองว่าต้นทุนที่ตนเองทำไม่ได้สูงมากมาย ประกอบกับพื้นที่อำเภอสะเมิงเป็นอำเภอรอบนอกของจังหวัดเชียงใหม่ หากตั้งราคาสูงคนในพื้นที่ไม่สามารถเข้าถึงได้ จึงคิดว่าขายในราคาที่ตั้งไว้ในเมนูเป็นสิ่งที่เหมาะสม และตนเองคิดว่าการเปิดร้านของตนเองเป็นการขายเอาสนุกเอามันส์ไม่ได้คิดอะไรมากมาย หากท่านใดผ่านมาที่สะเมิงมาแวะชิมกันได้” คุณนที กล่าว

          ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า คุณนที มูลแก้ว ได้พาทีมข่าวไปเยี่ยมชมสวนออแกร์นิกของคุณนทีที่อยู่ห่างจากร้าน 3 กิโลเมตร ในสวนของคุณนทีมีผักและผลไม้ออแกร์นิก ที่ไม่ใช่การใช้สารเคมีใดๆทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นขอปักหมุด “Ice Cream Café At Samoeng” เป็นหนึ่งในสิ่งที่ต้องห้ามพลาดเมื่อไปเยือนอำเภอสะเมิง สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เพจเฟซบุ๊ก “Ice Cream Café At Samoeng” ร้านเปิดทุกวันไม่มีวันหยุด หรือโทร 081-7512191 

ข่าว / ภาพ โดย เกรียงไกร รัตนา ศูนย์ข่าวเนชั่นภาคเหนือ