กองทัพรัสเซียยิงถล่มกรุงเคียฟตั้งแต่ก่อนรุ่งเช้าวันนี้ ทำให้เกิดเสียงระเบิดดังสนั่นทั่วเมืองและมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 คน จากตึกอะพาร์ตเมนต์ที่ถูกยิงถล่มจนเกิดไฟลุกไหม้ และมีโรงงานผลิตอาวุธถูกโจมตีอีกด้วย วิตาลี คลิตซ์ชโก นายกเทศมนตรีกรุงเคียฟ ประกาศเคอร์ฟิวห้ามประชาชนออกนอกเคหะสถานเป็นเวลา 35 ชม. ตั้งแต่เวลา 20.00 น. วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น เพื่อความปลอดภัย
นายเทศมนตรีระบุว่า
"วันนี้เป็นวันที่ยากลำบากและอันตราย"
และบอกด้วยว่า
"เมืองหลวงเป็นหัวใจของยูเครนและเราจะปกป้องเคียฟ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์และฐานปฏิบัติการของเสรีภาพและความมั่นคงของยุโรป จะไม่ถูกละทิ้งโดยพวกเรา"
ขณะเดียวกันกองทัพรัสเซียยังคงยกระดับการโจมตีเมืองคาร์คีฟ เมืองใหญ่อันดับ 2 โดยมีการยิงถล่มมากกว่า 60 ครั้ง ตลอดคืนที่ผ่านมา เกิดไฟลุกไหม้หลายจุดทั่วเมือง
ขณะเดียวกันนายกรัฐมนตรีปีเตอร์ เฟียลา ของสาธารณรัฐเช็ก,นายกรัฐมนตรีมาแตอุซ มอราวีแยกสกี ของโปแลนด์ และนายกรัฐมนตรียาแน็ส ยานซา ของสโลเวเนีย มีแผนเยือนกรุงเคียฟในวันนี้ และจะเข้าพบกับประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี เพื่อให้ความมั่นใจว่าสหภาพยุโรปให้การสนับสนุนอธิปไตยและเอกราชของยูเครนอย่างเต็มที่ โดยทั้งหมดนั่งรถไฟข้ามพรมแดนจากโปแลนด์ไปยังกรุงเคียฟ
ขณะที่โอเลกซี อาเรสโตวิช ที่ปรึกษาของหัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ทำเนียบประธานาธิบดียูเครน ให้ความเห็นเมื่อค่ำวันจันทร์ว่าสงครามในยูเครนอาจสิ้นสุดในช่วงต้นเดือน พ.ค. หรืออาจภายในไม่กี่สัปดาห์ เนื่องจากรัสเซียกำลังใกล้ขาดแคลนทหารชุดใหม่เข้าไปเสริมกำลังในสมรภูมิ และคาดว่าอาจบรรลุข้อตกลงสันติภาพได้ในช่วงกลางหรือปลายเดือน เม.ย. หรือไม่เกินต้นเดือน พ.ค. และแม้สามารถบรรลุข้อตกลงแต่อาจยังมีการปะทะกันประปรายในช่วงเวลา 1 ปีได้ แม้ว่ายูเครนต้องการให้รัสเซียถอนทหารทั้งหมดออกไปพ้นดินแดน
แต่ที่ผ่านมาเขาไม่ได้มีส่วนร่วมในการเจรจาของคณะผู้แทนทั้งสองฝ่าย ซึ่งจัดมาแล้ว 4 รอบ และยังไม่มีความคืบหน้าใด ๆ เรื่องข้อตกลงหยุดยิงและการถอนทหาร ยกเว้นเรื่องการเปิดเส้นทางอพยพเพื่อมนุษยธรรมในบางเมืองที่ถูกปิดล้อม