ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติยังคงนำกำลังตำรวจไล่ล่า 3 ผู้ต้องหายิงดาบตำรวจกองปราบต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 ล่าสุดเข้าตรวจค้นในขนำกลางป่าสวนยางพาราในพื้นที่ อ.รัตภูมิ ควบคุมตัวคนสนิทของฉุย เขาจันทร์และ (รวย) อัฐพล ยอมรับทั้งสองคนมาขอความช่วยเหลือให้ซื้อโทรศัพท์ให้หลังเกิดเหตุ 2 วันแต่อ้างว่าไม่รู้ว่าไปก่อคดีมาและไม่รู้ว่าหนีไปไหนคุมตัวสอบเพิ่มแต่พบนายรวย อัฐพล มีแผลถูกยิงที่มือซ้าย
ความคืบหน้าการไล่ล่ากลุ่มคนร้ายที่ร่วมกันก่อเหตุยิงดาบตำรวจกองปราบเสียชีวิต 1 นายบาดเจ็บ 2 นาย ขณะเข้าจับกุมที่บริเวณสี่แยกเขาชัยสน จ.พัทลุง เมื่อวันที่ 9 มีนาคมที่ผ่านมาและคนร้ายถูกวิสามัญเสียชีวิตคารถ 1 คน ซึ่งคดีนี้มีผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับทั้งหมด 4 คน ประกอบด้วย นายจำรัส รักษ์จันทร์ หรือ ฉุย เขาจันทร์ นายพงศกร สุวรรณมะโณ หรือ เจ อายุ 22 ปี นายอัฐพล ใหม่อ่อน หรือ รวย อายุ 21 ปี และนายเกรียงไกร ไชยพูล อายุ 27 ปี
โดยเจ้าหน้าที่จับกุมได้แล้ว 1 คนคือ นายพงศกร สุวรรณมะโณ หรือเจ ขณะกบดานอยู่ในพื้นที่ ต.ท่าชะมวง อ.รัตภูม จ.สงขลา
ล่าสุดในวันนี้ (13 มี.ค.65) ทาง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร., พล.ต.อ. สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร.,พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท. จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ซึ่งยังคงเกาะติดอยู่ในพื้นที่นำกำลังติดตามไล่ล่าคนร้ายที่เหลืออยู่อีก 3 คน เป็นวันที่ 4
ทั้งนายจำรัส รักษ์จันทร์ หรือ ฉุย เขาจันทร์ นาย อัฐพล ใหม่อ่อน หรือ รวย นายเกรียงไกร ไชยพูล ซึ่งเชื่อว่าน่าจะยังคงกบดานอยู่ในพื้นที่อ.รัตภูมิ จ.สงขลา
และเมื่อช่วงมืดของวันนี้ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 100 นาย เข้าปิดล้อมตรวจค้นที่ขนำกลางป่าสวนยาง ที่อยู่บนเขาพื้นที่บ้านคลองรำขัน หมู่10 ต.เขาคราม อ.รัตภูมิ จ.สงขลา หลังได้รับรายงานว่าผู้ต้องหาทั้งสามคนเข้าไปขอความช่วยเหลือจากคนสนิทที่อยู่ในเครือข่ายค้ายาเสพติดกลุ่มเดียวกันและควบคุมตัว นายคำจร กุณโรจร อายุ 35 ปี หรือ บ่าว ซึ่งเป็นคนสนิทและอยู่กลุ่มเดียวกันกับ นายจำรัส หรือ ฉุย เขาจันทร์ นายอัฐพล หรือ รวย ซึ่งอยู่ในขนำ
จากการตรวจค้นภายในขนำยังพบอาวุธปืนกล๊อค 9 มม. 1 กระบอก ปืนลูกซองยาว 1 กระบอก ปืนลูกกรด ขนาด .22 อีก 1 กระบอก พร้อมกระสุนปืน 9 มม. และ .22 อีกจำนวนหนึ่ง รวมทั้งยาบ้าประมาณ 100 เม็ด และอุปกรณ์เสพกัญชา โดยปืนกล็อค 9 มม.นายคำจร รับว่าเป็นของตนที่ซื้อมาจากเพื่อน จากการสอบสวน นายคำจร ยอมรับว่ารู้จักกับ นายนายจำรัส หรือฉุยเขาจันทร์ และนายอัฐพล หรือรวยจริง โดยเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 9 มีนาคม ก่อนเกิดเหตุยิงปะทะกัน นายอัฐพล หรือรวย ได้นำยาบ้ามาส่งให้ถุงประมาณ 200 เม็ด บริเวณทางเข้าหมู่บ้าน
และหลังจากเกิดเหตุยิงกัน 2 วัน นายอัฐพล หรือรวย ได้โทรมาหาหลังจากนั้นนายอัฐพล และนายจำรัส เดินทางมาพบตน ซึ่งตนสังเกตุเห็นที่มือซ้ายของนายอัฐพล มีบาดแผลด้วยเมื่อถามก็บอกแค่ว่าโดนปืนมา โดยอ้างว่าตอนนั้นตนไม่รู้ว่าทั้ง นายจำรัส และนายอัฐพล ไปก่อเหตุยิงปะทะกับตำรวจมาเพราะไม่ได้คุยอะไรกันมากและอ้างว่าไม่รู้ข่าว
นายคำจร ยังบอกอีกว่า รู้จักนายจำรัส หรือฉุยเขาจันทร์ แต่ไม่ได้สนิทกันเพียงแต่เคยว่าจ้างให้ตัดไม้ไปสร้างบ้านให้ แต่จะสนิทกับ นายอัฐพล มากกว่าเพราะติดต่อซื้อขายยาเสพติดกัน และยังรับว่าเมื่อคืนนี้เพิ่งเสพยาบ้ามา 2 เม็ด
จากการตรวจสอบประวัตินายคำจร พบว่าเคยถูกจับกุมในคดีลักลอบตัดไม้มาก่อนด้วย เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 9 ได้ตรวจสอบเก็บหลักฐานและเก็บดีเอ็นเอ็นวัตถุพยานเช่นอาวุธปืนที่พบภายในขนำไว้เป็นหลักฐาน นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังได้สอบสวนเจ้าของขนำพร้อมภรรยาและชายอีก 2 คนที่อยู่ในที่เกิดเหตุขณะเข้าตรวจค้นพร้อมกับตรวจดีเอ็นเอและลายนิ้วมือเพื่อดูว่าเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับคดีนี้หรือไม่
ส่วนคำจร ได้ควบคุมตัวไปสอบสวนขยายผลเพิ่มเติมเพราะน่าจะเป็นกุญแจสำคัญที่นำไปสู่การหาเบาะแสไล่ล่าติดตามจับกุมคนร้ายเบื้องต้นได้แจ้งข้อหาอาวุธปืนและยาเสพติดเอาไว้ก่อนส่วนผู้ต้องหาทั้งสามคนเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าขณะนี้ยังกบดานอยู่ในพื้นที่หรือไม่เร่งสอบสวนขยายผลผู้ใกล้ชิดและคนสนิทเพิ่มเติมและยังคงเร่งติดตามไล่ล่าอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะจับกุมได้
ภาพ/ข่าว : สันติภาพ รามสูต สำนักข่าวเนชั่น จ.สงขลา