จับเพิ่มอีก 1 แก๊ง "ไอ้ฉุย" หิ้วตัวให้ ผบ.ตร. สอบสวนเพิ่ม
ความคืบหน้าล่าสุด จับผู้ต้องหาเพิ่มอีก 1 ราย หนึ่งในแก๊งค์ “ไอ้ฉุย” สารภาพโยนปืนทิ้งร่องน้ำกลางสวนปาล์มหลังเล้าหมูใกล้จุดทิ้งรถยนต์ ด้านกองปราบฯ หิ้วตัวให้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติสอบสวนเพิ่ม ล่าสุดศาลอนุมัติหมายจับผู้ต้องหาแล้ว จำนวน 4 ราย
ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (11มี.ค.65) การไล่ล่าคนร้ายแกงค์ "ไอ้ฉุย" นายจำรัส รักจันทร์ ผู้ต้องหาตามหมายจับสถานีตำรวจภูธรป่าบอนจังหวัดพัทลุงพร้อมพวก 3 คนที่หลบหนีหลังปะทะตำรวจกองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปราม ทำให้ด.ต.อนันต์ มีแสง ผบ.หมู่ กองกำกับการ 6 กองบังคับการปราบปรามเสียชีวิต และมีตำรวจได้รับบาดเจ็บอีก 2 นาย
ล่าสุด เช้านี้มีรายงานว่าตำรวจกองบังคับการปราบปรามได้เข้าจับกุม นายพงศกร สุวรรณมะโณ หรือ เจ อายุ 22 ปี หนึ่งในคนร้ายนี้ที่หลบหนีได้ที่ตำบลท่าชะมวง อำเภอรัตภูมิ จังหวัดสงขลา
เจ้าหน้าที่ตำรวจนำโดยพลตำรวจโท จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้ร่วมควบคุมตัวนายพงศกร ไปชี้จุดที่อ้างว่าโยนอาวุธปืนทิ้งร่องน้ำ ในสวนปาล์มน้ำมันของชาวบ้านที่อยู่ใกล้เล้าหมู หลังวัดท่าควาย ตำบลโคกม่วง อำเภอเขาชัยสน จังหวัดพัทลุง ซึ่งอยู่ใกล้กับจุดที่มีการจอดรถกระบะ ยี่ห้อมิตซูบิชิ รุ่นไทรทัน ทิ้งเอาไว้ซึ่งก็พบอาวุธปืนดังกล่าวจริง
จากนั้นได้ควบคุมตัวไปยังกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง เพื่อให้พลตำรวจเอกสุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่จะเดินทางลงพื้นที่ในช่วงบ่ายวันนี้ ได้สอบปากคำนายพงศกร ด้วยตัวเอง
ส่วนผู้ต้องหาที่ยังหลบหนี ประกอบด้วย นายจำรัส รักษ์จันทร์ หรือ ฉุย เขาจันทร์ อายุ 45 ปี ผู้ต้องหาคนสำคัญและเป็นมือปืนรับจ้างลำดับที่ 145 ตามประกาศสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ นาย อัฐพล ใหม่อ่อน หรือ รวย อายุ 21 ปี ซึ่งเป็นคนสนิทของนายจำรัส ยังหลบหนี
ล่าสุด ศาลอนุมัติหมายจับผู้ต้องหา 4 ราย ประกอบด้วย
1.นายจำรัส รักษ์จันทร์ หรือ ฉุย เขาจันทร์ (หลบหนี)
2.นายพงศกร สุวรรณมะโณ หรือ เจ อายุ 22 ปี (จับแล้ว)
3.นาย อัฐพล ใหม่อ่อน หรือ รวย อายุ 21 ปี (หลบหนี)
4.นายเกรียงไกร ไชยพูล อายุ 27 ปี (หลบหนี)
ความผิดฐาน "ร่วมกันฆ่าและพยายามฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่หรือเพราะได้กระทำการตามหน้าที่, ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย, ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ใด้รับอนุญาต, ร่วมกันพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุสมควรหรือไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์, ร่วมกันต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติหน้าที่โดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยได้กระทำโดยมีหรือใช้อาวุธปืน โดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สามคนขึ้นไป, ร่วมกันยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุ ในเมือง หมู่บ้านหรือที่ชุมชน" .