โผล่อีกผู้เสียหายกฤษณะทนายแม่แตงโมมีความหวังจะได้เงินคืน

กรณีนายกฤษณะ ศรีบุญพิมพ์สวย ทนายความนางภนิดา ศิริยุทธโยธิน แม่ดาราสาวแตงโม นิดา ที่มีประเด็นร้อนเกี่ยวกับเรื่องในอดีต และมีผู้เสียหายหลายคนทยอยออกมาให้ข้อมูลเปิดเผยเรื่องราวที่ถูกนายกฤษณะฉ้อโกงไป แม้จะมีการออกยอมรับว่าเป็นเรื่องจริง และพร้อมจะดำเนินการคืนเงินให้คู่กรณีทุกราย แต่ก็ยังไม่สามารถระบุได้ว่าจะชดใช้คืนแต่ละรายด้วยวิธีใดและตอนไหน ล่าสุดเจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวเมืองอุดรฯ เคลียร์ปัญหาหนี้สินกับนายกฤษณะกลางรายการข่าวช่องดัง ระบุยังไม่อุ่นใจแม้จะตกลงการคืนเงินแล้ว หากได้เงินจริงจะทำบุญให้แตงโมทันที 
 
เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2565 ที่ร้านก๋วยเตี๋ยวเลขที่ 224/8 ถนนอำเภอ เขตเทศบาลนครอุดรธานี นายจตุพงษ์ ปัญญาสวัสดิ์ อายุ 40 ปี เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยว ผู้เสียหายอีกราย ได้นัดหมายกับผู้สื่อข่าวเพื่อเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติม หลังจากได้พูดคุยกับนายกฤษณะ ศรีบุญพิมพ์สวย ทนายความ ผ่านรายการข่าวจนเป็นกระแสสังคมเกิดขึ้น 

 

นายจตุพงษ์ ฯ เปิดเผยว่า รู้จักกับนายกฤษณะเพราะได้มาทานก๋วยเตี๋ยวที่ร้านจนไว้เนื้อเชื่อใจกัน แต่เมื่อปี 2560 นายกฤษณะมาขอยืมเงิน อ้างว่าลูกป่วย บ้านพ่อที่สกลนครถูกน้ำท่วมต้องใช้จ่ายเงินเยอะ ตอนแรกให้ไป 4,000 บาท ตอนเย็นกลับมาอีกบอกว่าลูกอาการแย่ลงมาก ก็ให้ไปอีก 52,000 บาท โดยมีการเซ็นเอกสารกู้ยืม รวมทั้งหมด 56,000 บาท หลังจากทางรายการข่าวได้ให้ตนวิดีโอคอลคุยกับนายกฤษณะ เขาตกลงจะจ่ายเงินคืนให้ แต่ขอผ่อนชำระเป็นงวด จากนั้นได้บันทึกเบอร์โทรศัพท์ของนายกฤษณะแล้วแอพพลิเคชั่นไลน์ก็เด้งขึ้นมาว่าเป็นเพื่อนกันในแอพฯ  
  
“นายกฤษณะทักมาคุยกับตนในไลน์ บอกว่าจะชดใช้เงินให้ แบ่งเป็น 3 งวด งวดละ 18,666 งวดแรกวันที่ 1 เมษายน งวดที่สองวันที่ 1 พฤษภาคม และงวดที่สาม 1 มิถุนายน 2565 ตนก็ไม่เอาดอกเบี้ยอะไร แต่ขอให้จ่ายเงินคืนมาให้ครบเท่านั้นหลังจากที่คุยกันแล้ว ตนก็ยังไม่สรุปอะไรได้ เพราะถ้าเงินยังคืนไม่ครบ ตนก็จะยังไม่เคลียร์กับเขา ก็ถือว่ายังไม่อุ่นใจ แต่ถ้าตนได้เงินคืนกลับมาบ้างบางส่วน ก็จะนำเงินจำนวนนี้ไปทำบุญให้แตงโม เพราะคิดว่าถ้าไม่มีคดีนี้ ไม่มีเรื่องราวนี้ คงจะไม่ได้เงินคืน เงินตนก็จะหายไปเฉยๆ ทวงถามตามหาเงินจำนวนนี้มา 5 ปีแล้ว จนคิดว่าจะไม่ได้คืนแล้ว กลุ่มผู้เสียหายหลายๆ คนที่ตนพอจะรู้จักก็ถอดใจกันหมด” 

 

นายจตุพงษ์ ฯ เปิดเผยอีกว่า ถ้าไม่มีกรณีคุณแตงโม ก็จะไม่มีใครมีโอกาสได้เงินคืนสักบาทเลย เพราะเขาหายสาบสูญไปจากอุดรธานีนานแล้ว รู้เพียงนายกฤษณะย้ายไปทำงานที่กรุงเทพฯ เคยโทรหาภรรยานายกฤษณะ ได้รับคำตอบว่าได้เลิกกันไปแล้ว แต่คิดว่าอาจจะอยู่ด้วยกัน แต่ตนก็ทำอะไรได้ ถ้าตนไปฟ้องก็จะต้องมีค่าทนายความอีก ก็คิดเพียงว่าหากได้เงินคืนบ้างก็คงจะดี ได้แต่เฝ้ารอทวงถาม แต่ถ้าได้เงินมาตนยืนยันว่าจะไปทำบุญให้คุณแตงโม จากนี้ไปตนก็ต้องรอดู ถ้าไม่ได้ตามที่ตกลง ตนก็จะร้องเรียนกับสื่อต่างๆ อีกครั้ง เพราะถ้าแจ้งตำรวจก็คงไม่มีอะไรดีขึ้นอยู่แล้ว

โดย - เศกสันติ กัลยาณวิสุทธิ์