สำนักข่าวอินเตอร์แฟกซ์ของรัสเซีย รายงานว่า กระทรวงกลาโหมรัสเซียกำหนดเริ่มหยุดยิงและเปิดเส้นทางปลอดภัยสำหรับอพยพพลเรือนเพื่อมนุษยธรรมในกรุงเคียฟ, เมืองคาร์คีฟ, เมืองมาริอูโปล และเมืองซูมี ตั้งแต่เวลา 10.00 น.วันนี้ตามเวลารัสเซีย ตามคำร้องขอของประธานาธิบดีเอ็มมานูแอล มาครงของฝรั่งเศส ที่พูดคุยทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินเมื่อวันอาทิตย์ และสถานการณ์ปัจจุบันในเมืองเหล่านี้
นอกจากนี้สำนักข่าว อาร์ไอเอของรัสเซีย รายงานด้วยว่า พลเรือนยูเครนสามารถอพยพไปยังรัสเซียและเบลารุสได้ โดยกองทัพรัสเซียจะเฝ้าสังเกตการณ์การหยุดยิงด้วย
โดรน
แต่โฆษกของประธานาธิบดียูเครนวิจารณ์การประกาศหยุดยิงของรัสเซีย ที่มีเงื่อนไขว่าจะปล่อยให้ชาวยูเครนออกนอกเมืองเหล่านั้น หากจะอพยพไปรัสเซียหรือเบลารุส โดยบอกว่าเป็นเรื่องไร้ศีลธรรมสิ้นดี และเป็นเพียงการสร้างภาพ พร้อมทั้งบอกว่าพลเรือนเหล่านี้ควรมีสิทธิอพยพไปที่อื่นภายในดินแดนของยูเครน
ล่าสุด โฆษกกระทรวงกลาโหมยูเครน ยืนยันว่า เปิดเส้นทางอพยพ 6 เส้นทาง ได้แก่ จากกรุง เคียฟไปเมืองโฮเมล, จากเมืองมาริอูโปลไปเมืองซาโปริชเชีย และรอสตอฟ-ออน-ดอน, จากเมืองคาร์คีฟไปเมืองเบลโกรอด และจากเมืองซูมีไปเมืองเบลโกรอด และโปลตาวา และได้แจ้งข้อมูลนี้ล่วงหน้าให้ยูเครน หน่วยงานอื่นๆ เช่น สหประชาชาติ คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศรับทราบแล้ว
ความพยายามหยุดยิงครั้งนี้มีขึ้นในขณะที่ปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียเข้าสู่วันที่ 12 และการตกลงหยุดยิง 2 ครั้งเพื่ออพยพพลเรือนในเมืองมาริอูโปลช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาล้มเหลว โดยสองฝ่ายกล่าวโทษกันว่าละเมิดข้อตกลง
ขณะที่ผู้แทนของรัสเซียและยูเครนกำหนดเจรจารอบ 3 ในวันนี้ แต่ยังไม่ทราบแน่ชัดเรื่องสถานที่และกำหนดเวลาเจรจา ส่วนการเจรจาทั้งสองครั้งแรกจัดขึ้นที่เบลารุส โดยในการเจรจารอบ 2 สามารถตกลงเรื่องการเปิดเส้นทางอพยพพลเรือนเพื่อมนุษยธรรมในเมืองมาริอูโปลและโวลโนวาคา
แต่ยูเครน กล่าวหาว่า รัสเซียยังคงปฏิบัติการโจมตีในเมืองอื่นๆ ในวันนี้ โดยเปิดฉากยิงถล่มในเมืองมิโกเลฟ ห่างจากกรุงเคียฟไปทางใต้ 480 กม. และจรวดทำให้เกิดเพลิงไหม้ย่านชุมชน นอกจากนี้ยังมีการยิงปืนใหญ่ถล่มหลายจุดในแคว้นเคียฟ รวมถึง เมืองเออร์ปิน ที่ไม่มีน้ำ ไฟฟ้า และเครื่องทำความร้อนมานาน 3 วัน
ขณะที่ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกีของยูเครน ยังคงพยายามย้ำข้อเรียกร้องให้สหรัฐฯ และสมาชิกองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือหรือนาโต จัดส่งเครื่องบินขับไล่ให้กองทัพยูเครนเพื่อต่อสู้กับรัสเซีย หลังจากนาโตยืนยันไม่ใช้วิธีการประกาศเขตห้ามบินเหนือน่านฟ้ายูเครน ที่จะทำให้สงครามลุกลามยิ่งขึ้น
แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐฯ เปิดเผยเมื่อวันอาทิตย์ว่า สมาชิกนาโตเห็นด้วยที่จะส่งเครื่องบินขับไล่ให้ยูเครน และสหรัฐกำลังพิจารณาจัดหาเครื่องบินขับไล่ของสหรัฐฯให้โปแลนด์ หากโปแลนด์ยอมมอบเครื่องบินขับไล่ "มิก" สมัยสหภาพโซเวียตให้ยูเครน
ขณะที่กระทรวงกลาโหมรัสเซีย เตือนเมื่อวานว่า หากประเทศใดเสนอให้ยูเครนใช้สนามบินสำหรับประจำการเครื่องบินรบเพื่อใช้ในปฏิบัติการโจมตีรัสเซียจะถือว่าประเทศนั้นๆ เข้าร่วมในสงครามครั้งนี้