svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"นิกร"ย้ำสูตรคิดปาร์ตี้สิลต์ให้ยึดม.91สัดส่วนถึงสัมพันธ์

07 มีนาคม 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"นิกร"ย้ำหลักการมาตรา 91 กำหนดสูตรคำนวณบัญชีรายชื่อให้หาร 100 ไม่ใช่ 500 ตาม "หมอระวี" เสนอ ย้ำชงเปลี่ยนได้แต่ระวังขัดรธน.ฉบับแก้ไข ยันไร้กลิ่นยุบสภา

7 มีนาคม 2565 นายนิกร จำนง ส.ส.บัญชีรายชื่อ และผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา ในฐานะเลขานุการคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.(ฉบับที่...) พ.ศ... และร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง (ฉบับที่...) พ.ศ... รัฐสภา กล่าวว่า การที่ นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ เตรียมเสนอคำแปรญัตติสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ โดยให้เป็นระบบปันส่วนผสม แทนระบบคู่ขนานที่รัฐสภารับหลักการนั้น ซึ่งการเสนอคำแปรญัตติดังกล่าวสามารถเสนอได้ตามสิทธิของส.ส.

 

ทั้งนี้ ในชั้นกมธ.ต้องพิจารณารายละเอียดอีกครั้ง โดยเฉพาะประเด็นว่าคำแปรญัตติดังกล่าวจะขัดกับรัฐธรรมนูญ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่1) พ.ศ. 2564 มาตรา 91 หรือไม่ เพราะมีเนื้อหาที่กำหนดไว้ชัดเจนว่า การคำนวณสัดส่วน ส.ส.บัญชีรายชื่อ ของแต่ละพรรคการเมือง ให้นำคะแนนของแต่ละพรรคการเมืองที่ได้รับเลือกตั้งมารวมกัน แล้วคำนวณเพื่อแบ่งจำนวนผู้ที่จะได้รับเลือกตั้งของพรรคการเมือง เป็นสัดส่วนที่สัมพันธ์โดยตรงกับคะแนนรวมข้างต้น

"เจตนารมณ์ของมาตรา 91 ของรัฐธรรมนูญที่แก้ไข คือ ให้หารด้วยจำนวน 100 คน เพื่อให้เป็นสัดส่วนที่สัมพันธ์โดยตรง  ไม่ใช่ใช้จำนวน 500 คน ซึ่งเป็นโดยอ้อม ส่วนที่มีการอ้างถึงถ้อยคำในมาตรา 93 และมาตรา 94 ของรัฐธรรมนูญนั้น ในชั้นการพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญ กรรมาธิการเห็นว่าไม่เกี่ยวข้องกัน และแม้ไม่แก้ไข จะไม่มีผลในทางบังคับใช้ เหมือนเป็นไส้ติ่งเท่านั้น ซึ่งมาตรา 93 และมาตรา 94 เป็นบทบัญญัติที่เกี่ยวเนื่องกับบัตรเลือกตั้งใบเดียว และกรรมาธิการแก้ไขรัฐธรรมนูญเคยแก้ไขแล้ว แต่ถูกร้องว่าส่อขัดหลักการ จึงตัดออกภายหลัง แต่ในที่ประชุมมองว่า แม้คงไว้ไม่มีผลใดๆ ทิ้งไว้แบบเดิมไม่มีปัญหา" นายนิกร กล่าว

 

อย่างไรก็ตาม ถ้ามีผู้เสนอคำแปรญัตติในประเด็นดังกล่าว กมธ.ต้องรับและพิจารณา แต่จะมีปัญหาว่ารับแล้วจะผิดรัฐธรรมนูญหรือไม่ โดยหากผู้ที่เสนอคำแปรญัตติแพ้ในชั้น กมธ. สามารถสงวนความเห็นไปสู้ในที่ประชุมรัฐสภาได้ ส่วนกรณีที่ นพ.ระวี ใช้สิทธิยื่นผู้ตรวจการแผ่นดิน ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาว่ารัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขกระทบสิทธิของประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งและพรรคการเมืองขนาดเล็กหรือไม่นั้น ซึ่งการทำงานของกมธ.ต้องเป็นไปตามกลไกของรัฐสภา จะหยุดพิจารณาไม่ได้

ส่วนการประชุม กมธ. นัดที่สองและสามในวันที่ 9-10 มี.ค.นั้น กมธ.จะหารือร่วมกันในประเด็นที่เห็นต่างกัน เช่น การใช้หมายเลขผู้สมัคร จะใช้เบอร์เดียวกันทั้งแบบเขตและบัญชีรายชื่อ หรือแยกใช้คนละหมายเลข การคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ เบื้องต้นจะคุยในหลักการ ก่อนลงรายละเอียดรายมาตรา นอกจากนั้น คือ การกำหนดปฏิทินทำงาน โดยมองว่าระยะเวลาที่ปิดสมัยประชุมถึงปลายเดือนพ.ค. เพียงพอต่อการทำร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญทั้ง 2 ฉบับ เพราะการแก้ไขร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งมีจำนวนมาตราน้อย และใช้ร่างของรัฐบาลเป็นหลัก เมื่อทำแล้วเสร็จ สามารถพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองได้ โดยอาจเพิ่มวันประชุมเป็น 3 วันต่อสัปดาห์

 

เมื่อถามว่า การเร่งพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญจะสัมพันธ์กับกระแสเร่งรีบยุบสภาหรือไม่ นายนิกร กล่าวว่า หากรีบสามารถเปิดวิสามัญได้ แต่หากไม่รีบ รอการเปิดประชุมในสมัยสามัญ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับที่ประชุมส่วนใหญ่พิจารณา ขณะที่กระแสข่าวยุบสภานั้น มองว่าเป็นเรื่องปกติของสภา ที่เกิดขึ้นได้ทุกยุคทุกสมัย เพราะเข้าสู่ช่วงปีที่ 4 ของสภา และเป็นครั้งสุดท้ายของฝ่ายค้านที่จะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ดังนั้น ต้องจัดเต็ม เพราะมีโอกาสเดียว ส่วนรัฐบาลต้องตั้งรับเต็มที่ ดังนั้น ไม่มีกลิ่นยุบสภาอะไรทั้งสิ้น

logoline