“เจ้าคุณแจ๊ค” พบ ปปป. รับข้อหาเพิ่ม 2 คดี เจ้าตัวเครียดหนักพยายามฆ่าตัวตาย

     ความคืบหน้ากรณี ตำรวจป้องบังคับการป้องกันปราบปรามการกระทำผิดและประพฤติมิชอบ หรือ บก.ปปป. สนธิกำลังร่วมกับ หน่วยงานอื่น ๆ ในสังกัด กองบัญชาการสอบสวนกลาง (บช.ก.) และ ป.ป.ช. เปิดปฏิบัติการ “ล้างบาปปราบอลัชชี” ขบวนการทุจริตเงินทอนวัดกว่า 110 ล้านบาท สางต่อคดีทุจริตเงินทอนวัดเฟส 4 ลุยค้น จ.นครนายก จ.นนทบุรี และ กทม. และบุกจับกุม "พระสิทธิวรนายก" หรือ “เจ้าคุณแจ็ค” เจ้าอาวาสวัดเขาทุเรียน และ รองเจ้าคณะจังหวัดนครนายก ฐานต้องสงสัยมีเอี่ยวคากุฏิ โดย ปปป. ได้ออกหมายเรียก "เจ้าคุณแจ๊ค" รับข้อหาเงินทอนวัดเพิ่มอีก 2 คดี พร้อมเชิญ 12 เจ้าอาวาส นครนายก - สุรินทร์ สอบปมทุจริตเงินทอนวัด วันที่ 1 มี.ค. นี้  (อ่านรายละเอียด) 

     ล่าสุดวันนี้ (1 มี.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น. พระสิทธิวรนายก หรือ “เจ้าคุณแจ็ค” เจ้าอาวาสวัดเขาทุเรียน และ รองเจ้าคณะจังหวัดนครนายก พร้อมด้วย เจ้าคณะจำนวน 11 วัด แบ่งเป็นในพื้นที่ จ.นครนายก จำนวน 9 วัด และ จ.ปราจีนบุรี 2 วัด เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.พิทักษ์ วาฤทธิ์ ผกก.2 บก.ปปป. เพื่อเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนเพิ่มเติมตามหมายเรียก โดยมีเฉพาะเพียง “เจ้าคุณแจ็ค” เพียงรายเดียวเท่านั้น ที่เป็นการเข้าพบเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติม
 

     พ.ต.อ.พิทักษ์ กล่าวว่า สำหรับการเชิญตัว “เจ้าคุณแจ็ค” มาเข้าพบในวันนี้ ก็เพื่อทำการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มอีก 2 คดี เพราะเป็นการกระทำผิดต่างกรรมต่างวาระ หลังก่อนหน้ามีการแจ้งไปแล้ว 1 คดี ขณะที่ในส่วนของเจ้าอาวาสรูปอื่น ๆ อีก 11 รูป เป็นการเรียกมาเข้าพบเพื่อสอบปากคำเพิ่มเติมในบางประเด็น ที่ยังมีข้อเคลือบแคลงสงสัย ทั้งนี้ก็เพื่อพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริงให้แน่ชัดว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดด้วยหรือไม่ 

     พ.ต.อ.พิทักษ์ กล่าวว่า สำหรับการสอบปากคำ เจ้าอาวาสทั้ง 11 รูป เบื้องต้นให้การเป็นประโยชน์ และสอดคล้องไปในทิศทางเดียวกัน คือ อ้างว่าเงินงบประมาณที่ได้รับจากสำนักพระพุทธศาสนา ได้ถอนเป็นเงินสดแล้วนำไปมอบให้กับ “เจ้าคุณแจ็ค” ทั้งหมด อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่เองก็ยังไม่ได้ปักใจเชื่อคำให้การทั้งหมด เพราะต้องพิจารณาควบคู่ร่วมกับพยานหลักฐาน อีกทั้งเงินที่ทุจริตในครั้งนี้มีจำนวนถึง 110 ล้านบาท จึงต้องตรวจสอบอย่างละเอียดให้แน่ชัดก่อน

     พ.ต.อ.พิทักษ์ กล่าวอีกว่า ส่วน “เจ้าคุณแจ็ค” เบื้องต้นยอมรับว่า เงินที่ได้มาทั้งหมดจะถูกนำไปให้กับนายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ หลังจากนี้จะมีการประสาน ปปง. เข้ามาข่วยในการตรวจสอบเส้นทางการเงิน เพื่อเร่งตามหาเงินส่วนที่เหลืออีกกว่า 90 ล้านบาท กลับคืนให้ได้มากที่สุด 

     เบื้องต้นจากการตรวจสอบพบว่า มีการยักย้ายถ่ายโอนเงินไปยังต่างประเทศในช่วงปี 59 ส่วนกรณีที่พบขวดเหล้า เบียร์ ถุงยางอนามัย ในกุฏิของ “เจ้าคุณแจ็ค” นั้น จะมีความผิดหรือไม่ ไม่สามารถระบุได้ เพราะกรณีดังกล่าวอยู่นอกเหนืออำนาจหน้าที่ของตำรวจ ต้องขึ้นอยู่กับดุลพินิจของทางสำนักพุทธฯ เป็นผู้พิจารณา 

     รายงานข่าวแจ้งว่า หลังตกเป็นผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวขึ้นมา “เจ้าคุณแจ็ค” มีอาการเครียดและวิตกกังวลอย่างหนัก ถึงขั้นพยายามผูกคอฆ่าตัวตาย แต่เคราะห์ดีมีลูกศิษย์เข้ามาพบและให้การช่วยเหลือได้ทันท่วงที จึงรอดปลอดภัย โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อข่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา