"เจ้าคุณแจ๊ค" อ่วม ตร.ออกหมายเรียกรับทราบข้อหาเงินทอนวัดเพิ่มอีก 2 คดี

     ความคืบหน้ากรณี ตำรวจป้องบังคับการป้องกันปราบปรามการกระทำผิดและประพฤติมิชอบ หรือ บก.ปปป. สนธิกำลังร่วมกับ หน่วยงานอื่น ๆ ในสังกัด กองบัญชาการสอบสวนกลาง (บช.ก.) และ ป.ป.ช. เปิดปฏิบัติการ “ล้างบาปปราบอลัชชี” ขบวนการทุจริตเงินทอนวัดกว่า 110 ล้านบาท สางต่อคดีทุจริตเงินทอนวัดเฟส 4 ลุยค้น จ.นครนายก จ.นนทบุรี และ กทม. และบุกจับกุม "พระสิทธิวรนายก" หรือ “เจ้าคุณแจ็ค” เจ้าอาวาสวัดเขาทุเรียน และ รองเจ้าคณะจังหวัดนครนายก ฐานต้องสงสัยมีเอี่ยวคากุฏิ

     โดยทางตำรวจเตรียมออกหมายเรียกให้ "พระสิทธิวรนายก" ให้เข้าพบพนักงานสอบสวนอีกครั้ง ในช่วงปลายเดือนนี้ เพื่อแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมอีก 2 คดี หลังมีการแจ้งข้อกล่าวหาคดีแรกไปแล้วเมื่อวันที่ 18 ก.พ. ที่ผ่านมา (อ่านรายละเอียด)  

     ล่าสุดวันนี้ (22 ก.พ.) พ.ต.อ.พิทักษ์  วาฤทธิ์ผกก.2 บก.ปปป. เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางพนักงานสอบสวน บก.ปปป. ได้ทำการออกหมายเรียก "พระสิทธิวรนายก" หรือ “เจ้าคุณแจ็ค” รวมถึงเจ้าอาวาสวัดต่าง ๆ ในพื้นที่ จ.นครนายก ประกอบด้วย วัดสมบูรณ์สามัคคี , วัดช้าง , วัดท่าซุง , วัดหนองโพธิ์ , วัดบ้านนุ่ง , วัดนาบุญ , วัดดงละคร , วัดโพธิ์งาม , วัดปทุมวงษาวาส , วัดธรรมารังสฤษฏ์ , วัดบางเตย , และเจ้าอาวาสวัดประชาสามัคคี อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์  มาเข้าพบอีกครั้ง ในวันที่ 1 มี.ค. ที่จะถึงนี้ 

     พ.ต.อ.พิทักษ์ กล่าวว่า ในส่วนของ "พระสิทธิวรนายก" นั้น เป็นการเรียกเข้าพบเพื่อแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม อีก 2 คดี เพราะเป็นการกระทำผิดต่างกรรมต่างวาระ หลังก่อนหน้านี้มีการแจ้งข้อกล่าวหาไปแล้วในคดีแรก เมื่อวันที่ 18 ก.พ. ที่ผ่านมา ส่วน 11 เจ้าอาวาสวัดต่าง ๆ ในพื้นที่ จ.นครนายก เป็นการเรียกมาสอบปากคำในฐานะพยาน เพื่อสอบประเด็นต่าง ๆ ที่ยังคงมีข้อสงสัยว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตดังกล่าวด้วยหรือไม่  

     ขณะที่เจ้าอาวาสวัดประชาสามัคคี ที่มีการเชิญตัวมาสอบปากคำในฐานะพยานครั้งนี้ด้วยนั้น เนื่องจากพบข้อมูลว่า "พระสิทธิวรนายก" ได้มีการทุจริตลักษณะเดียวกัน หลังมีการให้เจ้าอาวาสวัดดังกล่าวถอนเงินงบบูรณะซ่อมแซมวัดที่ได้รับจากทางสำนักพระพุทธศาสนา จำนวนรวม 4 ล้านบาท มามอบให้กับตัวเองที่วัดเขาทุเรียน ก่อนจะถอนกลับคืนไปให้จำนวน 9 แสนบาท 
 

     รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับประเด็นการสอบปากคำกลุ่มเจ้าอาวาส 11 วัดในพื้นที่ จ.นครนายก จะมุ่งเน้นไปที่พฤติการณ์รายละเอียดเกี่ยวกับขั้นตอนวิธีการทุจริต รวมถึงห้วงเวลา สถานที่นัดรับส่งมอบเงิน และข้อมูลการติดต่อกันระหว่าง "พระสิทธิวรนายก" กับ กลุ่มเจ้าอาวาสทั้ง 11 วัด นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ขุดคลี่คลายคดีดังกล่าวยังเตรียมเร่งขยายผลตรวจสอบไปตามพื้นที่จังหวัดใกล้เคียงต่าง ๆ เพิ่มเติม เพราะเชื่อว่า "พระสิทธิวรนายก" น่าจะมีการทุจริตในลักษณะเดียวกันอีกหลายแห่ง หลังแนวทางสืบสวนตรวจสอบพบการกระทำผิดเพิ่มเติมอีก 1 วัด โดยเป็นวัดแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริง