ตร. เตรียมแจ้งข้อหาเพิ่ม "เจ้าคุณแจ๊ค" คดีเงินทอนวัด จ่อเรียกพบปลาย ก.พ นี้

     ความคืบหน้ากรณี ตำรวจป้องบังคับการป้องกันปราบปรามการกระทำผิดและประพฤติมิชอบ หรือ บก.ปปป. สนธิกำลังร่วมกับ หน่วยงานอื่น ๆ ในสังกัด กองบัญชาการสอบสวนกลาง (บช.ก.) และ ป.ป.ช. เปิดปฏิบัติการ “ล้างบาปปราบอลัชชี” ขบวนการทุจริตเงินทอนวัดกว่า 110 ล้านบาท สางต่อคดีทุจริตเงินทอนวัดเฟส 4 ลุยค้น จ.นครนายก จ.นนทบุรี และ กทม. และบุกจับกุม "พระสิทธิวรนายก" หรือ “เจ้าคุณแจ็ค” เจ้าอาวาสวัดเขาทุเรียน และ รองเจ้าคณะจังหวัดนครนายก ฐานต้องสงสัยมีเอี่ยวคากุฏิ โดยค้นเจอทั้งเหล้า ถุงยาง และปืนบีบีกัน  (อ่านรายละเอียด)

     ล่าสุดวันนี้ (21 ก.พ.) พ.ต.อ.พิทักษ์ วาฤทธิ์ ผกก.2 บก.ปปป. เปิดเผยว่า ทางตำรวจเตรียมออกหมายเรียกให้ "พระสิทธิวรนายก" หรือ “เจ้าคุณแจ็ค” ให้เข้ามาพบพนักงานสอบสวน บก.ปปป. อีกครั้ง ในช่วงปลายเดือนนี้ เพื่อแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมอีก 2 คดี เมื่อรวมกับคดีแรกที่แจ้งข้อกล่าวหาไปแล้วเมื่อวันที่ 18 ก.พ. ที่ผ่านมา เท่ากับว่า "พระสิทธิวรนายก" จะต้องถูกดำเนินคดีจากทุจริตเงินทอนวัดรวม 3 คดี เพราะต่างกรรมต่างวาระ 

     นอกจากนี้อาจจะมีการเชิญพยานบุคคลมาทำการสอบปากคำเพิ่มเติมอีกในบางประเด็น เพื่อขยายผลติดตามหาเงินส่วนที่หายไปอีกกว่า 90 ล้านบาทกลับคืนมา 

     มีรายงานว่า สำหรับบุคคลที่ทางพนักงานสอบสวนเตรียมจะออกหมายเรียกเชิญตัวมาให้ปากคำนั้น เบื้องต้นเป็นเจ้าอาวาสวัดต่าง ๆ ในพื้นที่ จ.นครนายก จำนวน 11 รูป เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงให้แน่ชัดว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตหรือไม่ คาดว่าภายใน 1 - 2 สัปดาห์นี้ จึงจะมีการออกหมายเรียกอย่างเป็นทางการ นอกจากนี้ยังได้เตรียมออกหมายเรียกเชิญตัวผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่รายหนึ่ง พร้อมกับกลุ่มลูกศิษย์ของ "พระสิทธิวรนายก" มาให้ปากคำ

     หลังพบหลักฐานความเชื่อมโยงที่ทำให้เชื่อได้ว่า น่าจะเป็นตัวการสำคัญหรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับการยักย้ายถ่ายเทเงินและทรัพย์สินที่ได้มาจากการทุจริตของ "พระสิทธิวรนายก" และ "นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์" อดีต ผอ.สำนักพุทธฯ และอยู่ระหว่างตรวจสอบเส้นทางการเงิน และพยานหลักฐาน เพื่อขยายผลหาความชัดเจนว่า นอกจาก "พระสิทธิวรนายก" แล้ว ยังมีพระระดับผู้ใหญ่ในพื้นที่เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง หรือรู้เห็นกับการทุจริตเงินทอนวัดในครั้งนี้ด้วยหรือไม่ ซึ่งหากพบก็จะมีการดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายโดยไม่มีข้อยกเว้น

     นอกจากนี้รายงานยังระบุว่า ภายหลัง "พระสิทธิวรนายก" ถูกจับกุมกรณีทุจริต อมเงินบูรณะซ่อมแซม 12 วัดในพื้นที่ จ.นครนายก ก็ได้มีตัวแทนของวัดหลายแห่งจากหลายพื้นที่ ที่เคยทำธุรกรรมข้องเกี่ยวกับ "พระสิทธิวรนายก" นอกเหนือจาก 12 วัด ในพื้นที่ จ.นครนายก ติดต่อเข้าให้ข้อมูลกับทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเพิ่มเติม เพื่อแสดงตัวยืนยันความบริสุทธิ์ใจ ซึ่งในจำนวนนี้มีวัดแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.สุรินทร์ ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดีเป็นอย่างมาก 

     โดยตัวแทนจากวัดดังกล่าวให้ข้อมูลว่า เมื่อปี พ.ศ.2555 "พระสิทธิวรนายก" ได้ประสานเรื่องงบบูรณะซ่อมแซมมาให้กับทางวัด จำนวน 2 ครั้ง โดยครั้งแรก ประมาณ เดือน มี.ค. จำนวน 2 ล้านบาท และ ครั้งที่สอง เดือน ธ.ค. โดยครั้งแรกเมื่อได้งบมาแล้ว "พระสิทธิวรนายก" ก็ได้ให้เจ้าอาวาสวัดดังกล่าวถอนเงินสดทั้งหมดออกมาให้ ก่อนจะถอนเงินกลับคืนให้วัดไปจำนวน 9 แสนบาท

     ส่วนครั้งที่สอง ได้งบประมาณ 2 ล้านบาท ได้ใช้วิธีการเดิมให้เจ้าอาวาสถอนเงินทั้งหมดมามอบให้ที่วัดเขาทุเรียน แต่ครั้งนี้ทาง "พระสิทธิวรนายก" ไม่ได้ถอนเงินคืนกลับไปให้ ซึ่งหลังจากนี้ทางชุดคลี่คลายคดีดังกล่าวอยู่ระหว่างเร่งดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง