วันนี้ (25 ก.พ. 65) เมื่อเวลา 18.15 น. กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้รับแจ้งจากกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ซึ่งได้ประเมินและวิเคราะห์สถานการณ์น้ำจากฝนคาดการณ์ (ONE MAP) ของกรมอุตุนิยมวิทยา และสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) พบว่า พื้นที่จังหวัดยะลา ปัตตานี และนราธิวาส มีปริมาณฝนตกหนักมากกว่า 150 มิลลิเมตร
โดยเฉพาะพื้นที่บริเวณแม่น้ำสายบุรี และแม่น้ำโก-ลก จังหวัดนราธิวาส ทำให้มีปริมาณน้ำสะสมไหลลงแม่น้ำมากขึ้น จึงขอให้เฝ้าระวังระดับน้ำที่จะเพิ่มขึ้น ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดน้ำล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำบริเวณอำเภอบันนังสตา อำเภอรามัน จังหวัดยะลา อำเภอสายบุรี อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี และอำเภอแว้ง อำเภอสุคิริน อำเภอศรีสาคร อำเภอสุไหงปาดี อำเภอตากใบ อำเภอรือเสาะ อำเภอจะแนะ อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส ในช่วงวันที่ 25 - 28 ก.พ. 65
กอปภ.ก. จึงได้แจ้งให้ 3 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส ประสานอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดเจ้าหน้าที่ติดตามข้อมูลสภาพอากาศอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ริมสองฝั่งแม่น้ำสายบุรีและแม่น้ำโก-ลก จุดเสี่ยงที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำให้เฝ้าระวังระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นและล้นตลิ่ง รวมถึงเตรียมพร้อมในการขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูงให้พ้นจากแนวน้ำท่วม
หากมีแนวโน้มจะเกิดสถานการณ์หรือสถานการณ์ขยายวงกว้างให้จัดเจ้าหน้าที่ชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤต (ERT) ชุดเคลื่อนที่เร็ว รถปฏิบัติการ และเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง ตลอดจนประสานการปฏิบัติร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ และปฏิบัติตามแนวทางของแผนเผชิญเหตุในแต่ละพื้นที่อย่างเคร่งครัด สำหรับประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย
ขอให้ติดตามข่าวสารและการแจ้งเตือนภัยจากทางราชการอย่างใกล้ชิด หากมีประกาศหรือคำเตือนขอให้ปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด ท้ายนี้ หากพบเห็นหรือได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์ภัยสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และแอปพลิเคชัน “พ้นภัย” รวมถึงสายด่วนนิรภัย1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป