ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เกมที่ เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม "ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล ทำศึก ลอนดอน ดาร์บี้ พบกับ "สิงห์บลูส์" เชลซี ที่เกมนี้ต้องขาด โคล พาลเมอร์ ซูเปอร์สตาร์ของทีมที่ป่วย
ปรากฏว่าเป็นเจ้าบ้านที่ออกนำก่อนตั้งแต่นาทีที่ 4 จาก เลอันโดร ทรอสซาร์ หลังจากนั้นทีมเยือนพยายามครองบอลบุกหวังทวงประตูคืนแต่ทำไม่สำเร็จ แถมยังเสียอีกถึง 4 ประตูในครึ่งหลัง จาก เบน ไวท์ นาทีที่ 52 ไค ฮาแวร์ตซ์ เบิ้ลสองประตูนาทีที่ 57 และ 65 ก่อนที่ ไวท์ จะมาบวกลูกสองให้ตัวเองนาที 70 ช่วยให้ อาร์เซน่อล ถล่ม เชลซี ขาดลอย 5-0 เก็บเพิ่มเป็น 77 คะแนนยึดจ่าฝูงอไป โดย ทิ้งห่าง ลิเวอร์พูล 3 แต้มและหนี แมนฯซิตี้ เป็น 4 แต้มแต่แข่งมากกว่าแชมป์เก่า 2 นัด
จากผลงานเกมนี้ทั้งแฟนบอลและนักวิจารณ์ต่างยกให้ อาร์เซน่อล มีโอกาสสูงที่จะคว้าแชมป์ เพราะสามารถลบจุดอ่อนของตัวเองที่มักจะมาพลาดเสียแต้มในช่วงโค้งสุดท้ายอยู่เสมอ แต่ฤดูกาลนี้พวกเขากลับมาท็อปฟอร์มได้แบบถูกเวลา
ด้าน มิเกล อาร์เตต้า กุนซือ อาร์เซน่อล กล่าวหลังเกมว่า "ผมมีความสุขมากที่เราชนะเมื่อมองจากโอกาสและจำนวนประตูที่เราทำได้ นอกจากนี้เราได้คลีนชีตเช่นกันซึ่งแสดงให้เห็นถึงความคงเส้นคงวา" อย่างไรก็ตามเจ้าตัวยังติงลูกทีมที่ไม่มีวินัยมากพอในครึ่งแรก แต่ก็ดีขึ้นในครึ่งหลัง
สำหรับ 4 เกมที่เหลือของ เดอะ กันเนอร์ส จะเจอกับ สเปอร์ส, บอร์นมัธ, แมนฯยูไนเต็ด และ เอฟเวอร์ตัน
ส่วนทางฝั่ง เชลซี ที่แพ้ "ปืนใหญ่" แบบขาดลอยที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสร แถมยังโดนนักเตะเก่าของตัวเองอย่าง ไค ฮาแวร์ตซ์ ยิงใส่ถึง 2 ประตู เมาริซิโอ โปเชตติโน่ กุนซือ "สิงห์บลูส์" กล่าวหลังเกมว่า "มันน่าผิดหวังมาก ฟอร์มของเราวันนี้แย่เอามากๆ เราทำให้ทุกอย่างดูง่ายสำหรับ อาร์เซน่อล และพอพวกเขาได้ประตูที่สาม เกมก็ตกเป็นของพวกเขา" และ พอช ยังมองอีกว่า การขาด โคล พาลเมอร์ ในเกมนี้ ส่งผลพอสมควร เพราะตัวนักเตะกำลังอยู่ในฟอร์มที่ดี
จากความพ่ายแพ้ของ เชลซี ทำให้พวกเขามี 47 แต้ม อยู่อันดับ 9 เท่าเดิม โอกาสชิงพื้นที่ไปเล่นถ้วย ยูโรป้า ลีก เลือนลางลงไปทุกทีเพราะตามหลัง ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ ทีมอันดับ 5 ถึง 13 แต้ม