ทนายอนันต์ชัย พาผู้เสียหายร้องสถานทูตเมียนมาสอบชายอ้างเป็น จนท. ทำติดคุก

     ความคืบกรณีที่ 3 แม่ลูกเจ้าของโรงงานทำขนมเยลลี่ พร้อมนายอนันต์ชัย ไชยเดช หรือ ทนายกระดูกเหล็ก ร้องตำรวจกองปราบฯ เพื่อเอาผิดชาวเมียนมารวม 15 คน แจ้งความเท็จ ทำให้ต้องติดคุกในข้อหา "กักขัง - ค้ามนุษย์" ซึ่งภายหลังพบเป็นการให้การเท็จ จนเป็นเหตุให้ต้องรับโทษทางอาญา (อ่านรายละเอียด) 

     ล่าสุดวันนี้ (24 ก.พ.) นายอนันต์ชัย พร้อม นางสาวสุธิดา เนาว์รุ่งโรจน์ , นายจักรกฤษณ์ วิบูลย์ลักษณากุล และนางสาวลักษมน วิบูลย์ลักษณากุล 3 แม่ลูกเจ้าของโรงงานทำขนมเยลลี่ ได้ยื่นหนังสือต่อสถานเอกอัครราชทูตเมียนมา เพื่อร้องขอความเป็นธรรม และขอให้ตรวจสอบเกี่ยวกับผู้ที่แอบอ้างว่า เป็นเจ้าหน้าที่สถานทูตเมียนมา และนำเจ้าหน้าที่ของไทยเข้าจับกุมผู้เสียหายทั้ง 3 
 

     นายอนันต์ชัย ระบุว่า ขอให้สถานทูตเมียนมาตรวจสอบว่า นายเน ซอ โม เป็นเจ้าหน้าที่สถานทูตเมียนมา ตามที่กล่าวอ้างจริงหรือไม่ และสถานเอกอัครราชทูตเมียนมาได้รับเรื่องร้องเรียนตามที่แรงงานชาวเมียนมาทั้ง 14 คน ให้ความเท็จมาจากผู้ใด หรือได้รับเรื่องร้องเรียนและได้ส่งผู้ช่วยทูตฝ่ายแรงงานให้เข้าไปตรวจสอบบ้านที่เกิดเหตุเมื่อวันที่ 27 ม.ค. 64 หรือไม่ เพื่อให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียหายทั้ง 3 คนต่อไป 

     คดีนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 27 ม.ค. 64 หลัง เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะผู้ช่วยทูตฝ่ายแรงงาน ของสถานเอกอัครราชทูตเมียนมา ประจำประเทศไทย ได้เข้ามาช่วยเหลือแรงงานชาวเมียนมา จำนวน 18 คน จากบ้านเลขที่ 6 หรือ 59/18 ซอยลาดพร้าว-วังหิน 6 ถนนลาดพร้าว-วังหิน แขวง-เขตลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร

     โดยแรงงานชาวเมียนมา 14 คน ได้แจ้งข้อความอันเป็นเท็จกล่าวหาว่า บริษัท แอบโซลูท แม็กซิมัม จากัด , ห้างหุ้นส่วนจากัด เอ็มชูก้าร์ และ 3 แม่ลูกเจ้าของโรงงานทำขนมเยลลี่ กักขังหน่วงเหนี่ยว และบังคับทำงานอย่างผิดกฎหมาย จนเกิดเป็นคดีความและมีการติดคุก   

     โดยเมื่อวันที่ 18 ก.พ. ที่ผ่านมา 3 แม่ลูกเจ้าของโรงงานทำขนมเยลลี่ ได้แจ้งความกับตำรวจกองปราบปราม เพื่อให้ดำเนินคดีกับแรงงานชาวเมียนมาจำนวน 15 คน ฐาน "แจ้งข้อความอันเป็นเท็จให้ผู้อื่นได้รับโทษทางอาญา โดยมิได้มีการกระทำความผิดเกิดขึ้น และกรรโชกทรัพย์"  และเบื้องต้นทางสถานฑูตเมียนมา ยืนยันว่า นายเน ซอ โม ไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่สถานฑูตแต่อย่างใด