สถานทูตสหรัฐฯในรัสเซีย ออกคำเตือนเมื่อวันอาทิตย์ โดยอ้างจากแหล่งข่าวสื่อที่ไม่เปิดเผยว่า อาจเกิดเหตุโจมตีที่พุ่งเป้าโรงแรม ห้างสรรพสินค้า สถานีรถไฟ และสถานที่สาธารณะอื่นๆในเมืองใหญ่ของรัสเซีย เช่น กรุงมอสโก และเมืองเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก รวมไปถึงพื้นที่ตึงเครียดบริเวณชายแดนรัสเซียและยูเครน
นอกจากนี้คำเตือนระบุให้พลเมืองอเมริกันหลีกเลี่ยงการเข้าใกล้ฝูงชน และเพิ่มความระมัดระวังเมื่ออยู่ในสถานที่ที่นักท่องเที่ยวนิยมไป รวมถึงทบทวนเรื่องความปลอดภัยส่วนตัว และเตรียมแผนอพยพโดยไม่อาจพึ่งความช่วยเหลือจากรัฐบาลสหรัฐฯ
แต่โฆษกกระทรวงต่างประเทศของรัสเซีย แถลงว่า ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนเรื่องภัยคุกคาม และยังไม่ทราบแน่ชัดว่า แหล่งข่าวสื่อที่แจ้งเตือนเรื่องนี้คือใคร พร้อมกับตั้งคำถามว่า สถานทูตสหรัฐฯได้แจ้งข้อมูลนี้แก่รัสเซียหรือไม่ และหากไม่แจ้ง จะให้เข้าใจเรื่องนี้ว่าอย่างไร
ตลอดเวลาเกือบหนึ่งเดือนที่ผ่านมา สหรัฐฯแนะนำให้ชาวอเมริกันอย่าเดินทางไปรัสเซีย และหากประสบปัญหา ก็ขอความช่วยเหลือจากสถานทูตหรือสถานกงสุลสหรัฐฯ แต่คำเตือนครั้งนี้ยกระดับมากขึ้น และอ้างอิงถึงข่าวภัยคุกคาม
อย่างไรก็ตามจนถึงขณะนี้ยังไม่พบว่า สำนักข่าวรัสเซีย หรือ สำนักข่าวต่างชาติ หรือ สื่อยักษ์ใหญ่อื่นๆ นำเสนอรายงานข่าวคำเตือนเรื่องแผนโจมตีมอสโก หรือ เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก
คำเตือนของสถานทูตสหรัฐฯมีขึ้นในช่วงความสัมพันธ์ของสองประเทศกำลังตึงเครียด หลังจากสหรัฐฯเตือนมานานหลายสัปดาห์ว่า รัสเซียมีแผนบุกยูเครนในเร็ว ๆ นี้ และล่าสุดเกิดเหตุการณ์ละเมิดข้อตกลงหยุดยิงระหว่างกองทัพยูเครนและกบฏแย่งแยกดินแดนในภูมิภาคโดเนตสก์ และภูมิภาคลูฮันสก์ ทางภาคตะวันออกของยูเครน ทำให้สถานการณ์ในยูเครนตึงเครียดยิ่งขึ้น และประธานาธิบดีไบเดนกล่าวเมื่อวันศุกร์อ้างข่าวกรองของสหรัฐฯ ทำให้เขาเชื่อว่า ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินตัดสินใจแล้วที่จะบุกยูเครนในอีกไม่กี่วันข้างหน้า แต่รัสเซียปฏิเสธมาโดยตลอด