ศรัณย์วุฒิ อัดยับ บิ๊กป้อม กลางสภา แฉพี่อยากเป็นนายกฯ ต้องเล่นงานน้อง

     วันนี้ (18 ก.พ.) ที่รัฐสภา นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ อภิปรายทั่วไป โดยระบุว่า ขออภิปรายบุคคลคนหนึ่งที่ตอนอยู่พรรคเดิมอภิปรายไม่ได้ เป็นแกนแห่งความชั่วร้าย สร้างเครือข่ายและส่งพี่น้องหรือคนรู้จักไปตามส่วนต่าง ๆ ในช่วง คสช.

     ใช้อำนาจเปลี่ยนสัญญาระหว่างบริษัทหนึ่งกับ กสทช. ที่ผิดกฎหมาย ให้ถูกกฎหมาย เพื่อให้ได้ค่าโง่ 17,000 ล้านบาทจาก กสทช. โดยมี พล.ต.อ. "พ" น้องชายอยู่เบื้องหลัง เทคโอเวอร์บริษัท แม้จะมีคนมาขอไม่ให้อภิปราย เพราะบริษัทนี้เส้นใหญ่ แต่ตนอภิปรายเพื่อประชาชน 

     โดยวิธีการคือ กสทช. เรียกคนคลื่น 26,000 MHz ที่ MCOT หาคู่สัญญากำมะลอ เพื่อเรียกค่าเยียวยา คือ บริษัทแห่งหนึ่ง ก่อนยึดอำนาจมีมติ กสทช. ให้ยกเลิกสัญญา เพราะไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากผิดวัตถุประสงค์ของการใช้คลื่น บริษัทแห่งนี้ มีการลงทุน 200 กว่าล้านบาท เพื่อจัดตั้งขึ้นมาฟ้องเอาเงินค่าโง่จาก กสทช.

     นอกจากนี้  พล.อ.ประวิตร ยังได้ตั้งหมอรักษาโรคหัวใจส่วนตัวไปอยู่ใน กสทช. และให้น้องชาย พล.ต.อ. "พ" ไปอยู่เบื้องหลังแห่งนี้ ตั้งลูกน้องไปอยู่ใน กสทช. ซึ่งมีภรรยาเป็นที่ปรึกษาอยู่หน้าห้องเจ้าสัวซี
 

     นายศรัณย์วุฒิ กล่าวว่า อีกประเด็นหนึ่ง คือ นาย บ.ส.ก. เป็นคนขายเรือดำน้ำสืบทอดมาจากพ่อ นายคนนี้แทรกซึมเข้าไปทุกหน่วยงาน โดยมี พล.อ.ประวิตร อยู่เบื้องหลัง นาย บ.ส.ก. ทำงานเกี่ยวกับไอที เคยมีปัญหาเรื่องหุ้น ยอมจ่ายเงินเพื่อหนีคดีอาญา และมักจะเชิญรัฐมนตรีไปที่ห้องสังหาร ซึ่งเป็นห้อง VIP ในโรงแรมหรรษา เวลามีปัญหาในการดีลกับใครก็จะยกหูโทรหา พล.อ.ประวิตร
 

     นอกจากนี้ยังมีประเด็นเจ้าสัวใหญ่ ผูกขาดสินค้าเกษตร ควบรวมกิจการอะไรน่าจะผิดแต่ก็ไม่ผิด ถ้าอยู่พรรคเดิม พูดเรื่องนี้ไม่ได้ ส่วนเรื่องรถไฟความเร็วสูง เชื่อม 3 สนามบิน จับเสือมือเปล่า โดยหวังงาบที่ดินย่านมักกะสัน โดยเจ้าสัวบางคนใหญ่จริง แก้กฎหมาย พรบ.การแข่งขันทางการค้า จากนั้นทำการควบรวมบริษัทเข้าด้วยกัน ไม่รู้ว่าได้วางแผนไว้ล่วงหน้าหรือไม่ เช่นเดียวกับการควบรวมบริษัททรูกับดีแทค โดยรัฐก็เกียร์ว่าง เพราะมีผู้ยิ่งใหญ่ทรงอำนาจอยู่เบื้องหลัง 

     พอมีข่าวจะควบรวม หุ้นบางบริษัทก็ขึ้นสูงถึง 5 หมื่นกว่าล้าน เรื่องนี้ตนและนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ขอเกาะติด โดยไอ้โม่งที่อยู่เบื้องหลังคือ พล.อ.ประวิตร และ พล.ต.อ."พ" มหากาพย์ควบรวมนี้ จึงควบรวมได้ง่ายดาย น่าเสียดาย พล.อ.ประวิตร ไม่ได้มานั่งฟังด้วย 

     นายศรัณย์วุฒิ กล่าวว่า นอกจากนี้ยังมีมหากาพย์น้ำแห่งชาติ ที่ พล.ต.อ.ประวิตร คุมสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) โดยตั้งน้องชายเข้าไปอีกแล้ว พร้อมทั้งตั้ง นายทหาร นักการเมือง เข้าไปร่วมด้วย แต่ต้องฟังคำสั่งจาก ป. ที่ต้องทำตาม ไม่รู้ว่า เพื่อหวังงาบงบกลางไปถึงสัมปทานท่อด้วยหรือไม่  

     นายศรัณย์วุฒิ กล่าวว่า ความเสียหายที่เกิดขึ้น โดยสภาฯ ล่มซ้ำซาก ครั้งนั้นจะมีการยึดอำนาจกันในสภาฯ หากทำสำเร็จก็ไม่พ้นที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะถูกหักดิบในสภาฯ  และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี จะมาเป็นนายกฯ แทน เพราะจับมือกับฝ่ายตรงข้ามเรียบร้อยแล้ว แต่ทำไม่สำเร็จ หากไม่ใช่เรื่องจริงก็ขอให้มาชี้แจง เพราะช้างตายทั้งตัวใบบัวปิดไม่มิด จึงขอให้ยอมรับว่ามีความแตกแยกกันจริง และต้องการชิงอำนาจกัน พี่อยากเป็นนายกฯ จึงเล่นงานน้อง จึงเกิดปัญหาแล้วมาโทษฝ่ายค้านว่า ไม่ให้ความร่วมมือจนทำให้สภาล่ม

     ทั้งนี้ พ.ต.ท.ธนพัฒน์ กิตติวงศา ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ได้ลุกขึ้นประท้วงขอให้ นายศรัณย์วุฒิถอนคำพูดที่บอกว่า พี่อยากเป็นนายกฯ เพราะทำให้เกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวง ประชาชนที่รับฟังจะเข้าใจผิด นายศรัณวุฒิจึงสวนขึ้นมาทันทีว่า “ฆ่าทิ้งก็ไม่ถอนเพราะเป็นความจริง” ขอให้ผู้เกี่ยวข้องชี้แจงเอง

     ขณะที่นายสุชาติ  ตันเจริญ รองประธานสภาซึ่งทำหน้าที่ประธานในการประชุมได้วินิจฉัย ให้นายศรัณย์วุฒิอภิปรายต่อ เพราะนายกฯ จะเป็นผู้ชี้แจงเอง

     นายศรัณย์วุฒิกล่าวว่า ล่าสุดให้ลูกน้องแยกพรรคออกไป ประชาชนสับสน ระหว่างประชาธิปไตยคุณธรรม กับเผด็จการอำมหิต โดยการแยกพรรคเล็กออกไป เตรียมผสมพันธุ์ พรรคใหญ่อีกขั้ว หลังเลือกตั้งชนะมา จะให้พี่ใหญ่เป็นนายกฯ

     ที่เจ็บปวดหน่วยงานภาครัฐ บางหน่วยงานที่ถือหุ้นด้วย ยอมให้เกิดการควบรวมได้อย่างไร โดยไม่ได้ทักท้วงเลย ถ้าไม่มีคนเส้นใหญ่ ไอ้โม่งอยู่เบื้องหลัง เขาจะกล้าทำหรือ ต่อไปโทรศัพท์จะเหลือแค่ 2 เจ้า เขาบวกราคาเท่าไหร่ก็ต้องยอม ประชาชนเดือดร้อน กสทช. เอียง เป็นคนของใคร ไปสอบดู เช่นเดียวกับการจะงาบงบ 1.7 หมื่นล้าน เป็นของใคร ก็ไปดู ไอ้อันนี้ มันเป็นการ โง่บัดซบเลย ที่กำลังบอกคือ เจ้าสัวรายนี้ ผูกขาดตั้งแต่สัตว์เลี้ยง สินค้าราคาเกษตรราคาถูก คนไทยยอมได้หรือไม่

     ส่วนเรื่อง น้ำแห่งชาติ อยากเห็นเอางบกลางมาทำน้ำจริง ๆ ไม่อยากเห็นการจัดคนมางาบงบกลาง ที่อยากให้มาแก้ปัญหาภัยแล้ง น้ำท่วม ไม่ใช่ปล่อยให้การมาจัดซื้อครุภัณฑ์ ถ้านายกฯ ปล่อย จะโดนมาตรา 157 ตนจะตามจี้ไม่ปล่อย 
 

     บางคนเป็นฝ่ายเผด็จการ กำลังแปลงร่างเป็นเทพบุตร เลือกตั้งต่อไปจะผสมพันธุ์พรรคฝ่ายตรงข้าม รับไม่ได้ สงสารประเทศไทย เกิดความเหลื่อมล้ำ เอื้อเจ้าสัวสุด ๆ แต่คนไทยยังจนจนตาย จะขอต่อสู้อย่างถึงที่สุด วันนี้คนไทยบอกว่า นายกฯ ประยุทธ์ ที่ไม่เก่ง แต่ผมรู้ว่าไม่ใช่ แต่ท่านเป็นสิงห์ซ่อนเล็บ ประเทศไทยกำลังจะได้นายกฯ คนใหม่ มูมมามที่สุด กินทุกอย่างที่ขวางหน้า ใช้อำนาจเบ็ดเสร็จเอื้อเจ้าสัว นอกจากไม่เก่ง ใครถามอะไรก็บอกว่า ไม่รู้ ไม่รู้ 

     “คนไทยบอกว่า นายกฯไม่เก่ง ก็ไม่อยากได้ นายกฯไม่รู้ ไม่รู้ กูก็ไม่เอา กูไม่เอา กูไม่เอาโว้ย”นายศรัณย์วุฒิพูดพร้อมตะโกนอย่างสุดเสียงในห้องประชุมสภา  
 

     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การอภิปรายของนายศรัณย์วุฒิ ยามพาดพิงไปถึง พล.อ.ประวิตร และ พล.อ.ประยุทธ์ ใช้ถ้อยคำหยาบคาย และบุคคลภายนอกถูกประท้วงจาก ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลเป็นระยะ ๆ โดยขอให้หลีกเลี่ยงพาดพิงไปถึงบุคคลภายนอก โดยบางคนถึงกับขู่ว่า ครั้งที่แล้วอาจจะย้ายพรรค แต่ครั้งนี้อาจจะติดคุกได้